วันนี้ (17 เมษายน) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีผลโพลจากสำนักต่างๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ว่า เราดูหลายๆ โพล เรามีความมั่นใจในความนิยมของพรรคภูมิใจไทย แต่เราก็ไม่ได้มองข้าม ก็ลองไปดู ส่วนการเคลื่อนไหวของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาคัดค้านนโยบายต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อพรรค ขณะเดียวกันกลับทำให้ความแข็งแรงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก่อนเกิดกรณีชูวิทย์ เราคาดว่าจะได้ ส.ส. จำนวนหนึ่ง แต่พอมีเรื่องชูวิทย์ขึ้นมาก็คิดว่าจะได้ ส.ส. เพิ่มมากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชูวิทย์ลงไปในพื้นที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ต้องกำชับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างไร อนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องกำชับอะไร ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทยเกือบ 400 คน วันนี้ยังไม่มีใครเดินมาหาตนแล้วแจ้งว่ามีปัญหาแต่อย่างใด และไม่พูดถึงชูวิทย์เลย เราก็ถือว่าดีแล้ว
“ไม่มีโพลไหนสู้โพลของผมได้หรอก ผมเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ทำโพลของตัวเอง เชื่อมั้ยว่าตรงเป๊ะที่สุดเลย อย่างคราวที่แล้วผมคาดว่าจะได้ ส.ส. 52 คน แต่เข้ามาได้ 51 คน อย่างในสมัยที่ผมยังเด็กๆ อยู่ คิดว่าจะได้ ส.ส. เข้ามา 22 คน ก็เข้ามา 22 คน ผมเชื่อตัวเอง” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ‘โพลอนุทิน’ จะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ถึงเลข 3 หลักหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ไม่ขอปฏิเสธ ตนจะขอทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่จะมองข้ามประชาชนไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้ตัดสินใจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลายโพลบอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ลำดับ 2 ตรงกับโพลอนุทินหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า โพลของตนต้องเก็บไว้ในใจ ตนมีหลักการคำนวณของตัวเอง แต่ตนไม่สามารถมาพูดตัวเลขอะไรออกมาได้ ต้องเกรงใจประชาชน แต่ขณะเดียวกันหากผลออกมาแบบบางโพลที่บอกว่าพรรคภูมิใจไทยได้ร้อยละ 3 ก็เท่ากับ 12 คน เราก็ต้องมาดูว่าได้เพียง 12 คนเองหรือ ฝ่ายตรงข้ามก็ดีใจกันใหญ่เลย พรรคภูมิใจไทยได้ร้อยละ 3 ถ้าได้ 12 คนจริง ก็ถือเป็นเรื่องดี ตนจะได้ไม่ต้องเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ตนก็ต้องตัดสินใจหยุดทุกอย่างในทางการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการกำหนดว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นตัวแปรหรือเป็นผู้กำหนดโฉมหน้ารัฐบาล อนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส. ที่ประชาชนจะมอบให้ คงต้องรอให้ถึงคืนวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ค่อยมาตอบคำถามนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าพรรคภูมิใจไทยอย่างไรก็เป็นรัฐบาลในรอบนี้ อนุทินกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดหวังตรงนั้น ตอนนี้เป้าหมายแรกคือสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เพื่อให้ได้ ส.ส. เข้าสภาตามที่เราตั้งเป้าไว้ เมื่อถึงเวลาเห็นผลแล้ว เหลือแค่ว่าเราจะวิ่งตามเขา หรือเขาต้องวิ่งตามเรา การเมืองแค่นี้เอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะมีการจัดปราศรัยใหญ่ช่วงโค้งสุดท้ายหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนรวมทั้งผู้บริหารพรรคลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เวทีใหญ่คงไม่มี แต่เราจะลงพื้นที่และจัดเวทีย่อยให้ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด เพราะพื้นที่ กทม. กระจัดกระจาย บางครั้งการจัดเวทีใหญ่ไม่ได้ทำให้ใกล้ชิดประชาชน
