วันนี้ (9 กันยายน) ที่กระทรวงมหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย นำรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คน ได้แก่ ทรงศักดิ์ ทองศรี, ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ และ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย เริ่มจากศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยลงมาให้การต้อนรับ
อนุทินกล่าวว่า ชีวิตพวกเราฤกษ์สะดวกตื่นมาตอนเช้า เข้าห้องน้ำไม่เตะโต๊ะ ขาโต๊ะ ก็สะดวกแล้ว ขับรถมากระทรวงรถไม่ชน จัดการทุกอย่างตามกำหนดการ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เราเอาใจมาทำงาน มั่นใจว่าเราทำความดีให้ส่วนรวม จะรอฤกษ์ไม่ได้ ต้องทำตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
ส่วนการแบ่งงานในกระทรวงมหาดไทยนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายน และให้รัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ก่อน ค่อยแบ่งหน้าที่ภายในกระทรวงกับรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีในใจหรือไม่ว่าจะแบ่งงานกันอย่างไร อนุทินกล่าวว่า อย่าพูดคำว่าแบ่งงาน สไตล์การทำงานของตนคือเราช่วยกันดูแลอยู่แล้ว รัฐมนตรีช่วยแต่ละคนจะได้ช่วยกันได้ ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละคนนั้นก็มีพื้นที่ที่ต้องดูแล อย่าง ธีรรัตน์ ก็เป็น สส. กทม. หรืออย่างซาบีดาก็เป็นผู้ช่วยงานการเมืองของพรรคภูมิใจไทยมาโดยตลอด จากนี้เราต้องช่วยกันดูแลกระทรวงมหาดไทย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ซาบีดาดูเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลหรือไม่ อนุทินยิ้มก่อนจะตอบว่า จะต้องไปนั่งพิมพ์คำสั่งทำไม ยืนยันว่าการแบ่งงานนั้นปรับไม่มาก อย่างตนก็เคยวานให้ทรงศักดิ์ไปดูแลงานในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย และในพื้นที่ กทม. ก็ต้องให้ธีรรัตน์เป็นผู้ดูแล เพราะเป็น สส. กทม.
“ขอให้นายกฯ ได้แถลงนโยบายก่อน กระทรวงมหาดไทยมีแค่ไม่กี่กรม แต่ไม่ว่าจะแบ่งงานอย่างไรก็ต้องช่วยกัน” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำกับเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและความรุนแรง การเป็นผู้หญิงจะไม่ส่งผลต่อการดูแลเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ข้างหลังผมน่ากลัวกว่าคุณชาดาอีก พร้อมยืนยันว่า สำหรับตนคิดว่าผู้มีอิทธิพลก็คือรัฐมนตรีช่วยหญิงทั้ง 2 คนนี่แหละ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ถ้าเราเข้าใจ สนับสนุนกันและกัน ซึ่งแพทองธาร นายกฯ พูดกับเราเสมอว่า เรามาทำสิ่งที่ดีให้บ้านเมือง ก็มั่นใจว่าจะครบเทอม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นิยามของกระทรวงมหาดไทยตอนนี้เป็นอย่างไร อนุทินกล่าวว่า เป็นจุดแข็ง รัฐมนตรีที่อยู่ในยุคนี้ผ่านศึกสงครามด้านการเมือง มีความเข้าใจและความตั้งใจรับใช้ประชาชน ทุกคนมีความพร้อมทั้งด้านการศึกษาและประสบการณ์ เชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยจะทำงานอย่างคล่องตัวและนุ่มนวลแต่มีพลัง ส่วนตัวรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่มีรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คน อีก 2 คนเป็นสุภาพสตรี เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยในกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการก็พร้อมให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นอย่างดี
อนุทินกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเรียกมหาดไทยยุคนี้ว่า “สิงห์ 2 คู่อยู่ในกระทรวงมหาดไทยร่วมกันได้”
จากนั้นอนุทินได้นำรัฐมนตรีใหม่พบปะและมอบนโยบายแก่ข้าราชการประจำกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวว่า ตนและทรงศักดิ์ ท่านคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่อยากจะแนะนำผู้ที่มาร่วมงานใหม่นั่นก็คือรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คน คือซาบีดา และธีรรัตน์ ซึ่งไม่ใช่คนหน้าใหม่ทางการเมือง แต่มีพื้นฐานและรากฐานทางการเมืองที่เข้มแข็ง และสามารถที่จะทำคุณประโยชน์ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการบำบัดทุกข์บำรุงสุขตามเจตนารมณ์ของกระทรวงมหาดไทย
“อย่างท่านซาบีดาไม่ใช่การมารับตำแหน่งแทนคุณพ่อ แต่คุณพ่อถอนตัว เพื่อให้เกิดความสะดวกและความราบรื่นต่างๆ ของรัฐบาล และท่านซาบีดาก็ได้รับการเสนอเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย เชื่อว่าองคาพยพทั้งหลายจะทำประโยชน์ให้กับคนไทยและพี่น้องทั้งหลายได้เป็นอย่างดี”
อนุทินกล่าวถึงธีรรัตน์ว่า เป็น สส. หนึ่งเดียวของ กทม. เป็น สส. หลายสมัย มีความรู้ ความสามารถ และมีความมุ่งมั่นในการทำงานทั้งในสภาและงาน สส. จึงเชื่อว่าพวกเราทั้งสี่คนจะเป็นทรัพยากรที่ท่านทั้งหลายสามารถใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและตอบสนองภารกิจของกระทรวงมหาดไทยได้บรรลุเป้าหมาย
อนุทินยังกล่าวอีกว่า สำหรับตน จริงๆ วันนี้ต้องถือเป็นการเข้าดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ก็ต้องปรับตัวพอสมควร ถ้าเราไม่ปรับความรู้สึก มันก็เหมือนต่อเนื่อง แต่ที่จริงแล้วเป็นคนละรัฐบาล แม้ในรัฐบาลแพทองธารจะไม่ได้มีองค์ประกอบเปลี่ยนไปมากนัก ซึ่งงานของกระทรวงมหาดไทยที่จะได้รับมอบหมายจากนายกฯ ก็คงจะไม่ได้เปลี่ยนไป และเมื่อเราจะสามารถทำงานร่วมกันกับทุกองค์กร กระทรวง ทบวง กรม ได้เป็นอย่างดี ตนก็มีความภาคภูมิใจไปด้วย
อนุทินยังย้ำว่า พวกเราทุกคนมาดี ไม่ได้มาเพื่อทำให้เกิดการปั่นป่วนวุ่นวาย และถ้าหมดวาระก็จะไปด้วยมิตรไมตรี วันนี้ผลงานของกระทรวงมหาดไทยเป็นที่ประจักษ์ เพราะเรามีข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่คอยสนับสนุน ส่วนสไตล์การทำงานของตน ไม่น่าจะมีอะไรที่ทำให้ท่านแปลกใจ และเราคงจะเริ่มทำงานอย่างเต็มสุขหลังจากที่นายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
อนุทินยังกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้รัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คน คำนึงถึงตัวเลขที่เรียก ตนไม่อยากจะให้เรียก มท.1, มท.2, มท,3 อยากจะให้เรียก มท.หนู, มท.ป้อม เพราะเราไม่อยากให้มีการเรียงลำดับอะไร และวันนี้ตนยังถูกลดจาก สร.5 ไปเป็น สร.6 เลย ดังนั้นตัวเลขไม่สำคัญ อยู่ที่ภารกิจที่เราจะทำให้กับพี่น้องประชาชนมากกว่า
ขณะที่ซาบีดากล่าวว่า เข้าใจเจตนารมณ์ของกระทรวงมหาดไทยว่าเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ดังนั้นเมื่อได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ก็ขออุทิศตัว มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย และการที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับชาดาก็จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในครั้งนี้ และเมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระทรวงมหาดไทยแล้วก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย
ส่วนธีรรัตน์กล่าวว่า มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่มาทำหน้าที่สำคัญและมีความคาดหวังของประชาชน และได้ฟังคำกล่าวรายงานจากผู้บริหารของกระทรวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดิฉันรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจ และเมื่อเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ประชาชนอยู่ดี มีความสุขมากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด ที่สำคัญเราต้องช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำที่อยู่ในประเทศนี้ให้ได้ หวังว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปจะทำงานด้วยกันอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
