วันนี้ (8 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงการทบทวนการประกาศใช้ ‘ภูเก็ต โมเดล’ ซึ่งจะต้องมีการทบทวนอีกรอบนั้นว่า รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้และให้ประชาชนมีงานทำ แต่ทั้งนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลด้วย แต่ถ้าหากมีผู้ติดเชื้อขึ้นมา เรามีความพร้อมมากกว่าการระบาดในช่วงแรก ทั้งด้านสถานพยาบาล เวชภัณฑ์ ส่วนตัวมองว่าหากเรากลัวโควิด-19 จนไม่ทำอะไรเลย เศรษฐกิจก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ จึงขอให้คนไทยอย่ากลัว และเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป รวมถึงขอให้คนไทยปรับตัวอยู่กับโรคนี้ให้ได้
เมื่อถามว่ายังยืนยันที่จะใช้ภูเก็ต โมเดลในวันที่ 15 ตุลาคมหรือไม่นั้น อนุทินบอกว่า ตอนนี้มีกระแสต่อต้าน ซึ่งส่วนตัวไม่มั่นใจว่าเป็นคนจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ ตนจึงอยากให้คนภูเก็ต รวมถึงคนทั้งประเทศออกมาสนับสนุน และหากใครมีความพร้อมที่จะประกอบธุรกิจ ก็ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย
เมื่อถามว่าโครงการนี้จะได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ศบค. หรือไม่
อนุทินกล่าวว่า จะเคาะตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ รวมถึงการต้องนำมาตรการต่างๆ เพื่อให้ทางพื้นที่เสนอเข้าสู่ ศบค. สิ่งที่ตนทำไม่ได้หมายถึงนักท่องเที่ยวไปที่ไหนก็ได้ แต่จะให้อยู่ในโรงแรมเป็นเวลา 14 วัน และสามารถใช้บริการต่างๆ ภายในบริเวณโรงแรมได้ เพราะเรามีมาตรการป้องกัน และอยากให้เศรษฐกิจในประเทศเดินหน้า ด้านประชาชนก็อยากเร่งให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไวๆ
“ส่วนความพร้อมด้านประสิทธิภาพของโรงพยาบาลตามชายแดนไทย-พม่า ก็มีความพร้อมทั้งในทุกด้าน และผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 105 คน ก็เป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศเท่านั้น” อนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงการพัฒนาวัคซีนรักษาโควิด-19 ของไทยว่าไปถึงขั้นไหนแล้ว
อนุทินเผยว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาร่วมกับหลายๆ สถาบัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบงบประมาณส่วนกลางให้ 1,000 ล้านบาท เราจึงได้นำงบส่วนนี้ไปร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 600 ล้านบาท และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีก 400 ล้านบาท รวมทั้งงบเงินกู้ที่สำรอง 3,000 ล้านบาท ที่ยังคงอยู่
ขณะที่โครงการ COVAX คือโครงการความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก ที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมนั้น อนุทินเผยว่า เป็นการร่วมพัฒนาร่วมกัน และใช้เครดิตของเงินทุนที่นำไปพัฒนากลับมาเป็นวัคซีนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกประเทศเข้าร่วมโครงการนี้ ไทยจึงต้องเข้าร่วมด้วย อีกทั้งโครงการนี้มีผู้พัฒนา 15 ราย ไทยจึงมีโอกาสที่จะเข้าถึงมาก แต่การใช้งบประมาณ COVAX ก็ต้องผ่านการหารือจาก ศบค. นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีด้วย
อนุทินยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่ารัฐบาลไม่สนับสนุนโครงการ COVAX ด้วยว่า พูดกันไปเรื่อย และก็ออกมาชี้แจงแล้วว่ารัฐบาลมีงบประมาณไว้สนับสนุน แต่ต้องทำให้เป็นทางการพร้อมด้วยข้อมูลเอกสารให้รู้ถึงขั้นตอนต่างๆ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
