×

อาหารที่ดีต้องเรียบง่าย แต่มีรสชาติ ‘แอนตัน โมสิแมน’ พ่อครัวผู้ทำอาหารให้ราชวงศ์อังกฤษถึง 4 ยุคสมัย [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2019
  • LOADING...
Anton Mosimann

HIGHLIGHTS

  • ‘แอนตัน โมสิแมน’ เชฟผู้อยู่เบื้องหลังอาหารมื้อสำคัญของราชวงศ์อังกฤษมานานกว่า 30 ปี โดยครั้งสำคัญล่าสุดคือพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และ แคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ 
  • เมื่อตอนอายุ 28 ปี ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวที่ห้องอาหารโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน และนำดาวมิชลินมาประดับร้านได้ถึง 2 ดวง ถือเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ได้รับมิชลินสตาร์นอกประเทศฝรั่งเศส

การทำงานในห้องครัวเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน ที่จะได้หยิบจับเครื่องมือทำอาหารและเนรมิตวัตถุดิบต่างๆ ให้ออกมาเป็นเมนูเลิศรส ทว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรากลายเป็นเชฟที่ดีและประสบความสำเร็จได้ อาจไม่อยู่ที่การปรุงอาหารทุกจานให้มีรสชาติดีเพียงอย่างเดียว หากรวมถึงการมีความคิดสร้างสรรค์ ใส่ใจกับทุกสิ่งที่ทำ และที่สำคัญคือการไม่หยุดที่จะเรียนรู้และให้บางสิ่งกลับคืนแก่คนรุ่นต่อๆ ไป

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ‘เชฟแอนตัน โมสิแมน’ (Anton Mosimann) เชฟสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ในวัย 70 ปี เชื่อเสมอว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นเชฟที่ได้รับการยกย่อง อีกทั้งทำให้ตลอดเวลาในเส้นทางสายอาชีพเชฟ เขาได้รับเกียรติและโอกาสมากมาย ซึ่งยากนักที่หลายคนจะได้มี อย่างเช่นการได้เป็นพ่อครัวในงานพิธีสำคัญต่างๆ ของราชวงศ์อังกฤษมานานถึง 4 ยุคสมัย หรือการได้มีพิพิธภัณฑ์เป็นของตัวเอง ซึ่งที่นั่นมีตำราสูตรอาหารที่เชฟเป็นผู้สร้างสรรค์อยู่มากถึง 6,000 เล่ม!

 

Anton Mosimann

 

ในวันนี้เราก็มีโอกาสนั่งพูดคุยกับเชฟแอนตันถึงประสบการณ์การเป็นพ่อครัวมานาน 55 ปี ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งที่หลายคนอยากรู้คำตอบไม่ต่างกันก็คือ อะไรที่ทำให้เชฟแอนตันยังคงเป็นพ่อครัวที่หลายคนต้องการชิมรสฝีมือมากที่สุดมาถึงทุกวันนี้

 

เชฟแอนตันเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจการทำอาหารคือ การเติบโตในครอบครัวที่เปิดร้านอาหาร และได้ช่วยงานครัวตั้งแต่เด็ก ห้องครัวจึงเป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กผู้ชายคนนั้นมาถึงทุกวันนี้ และนอกจากการทำอาหารแล้วก็ไม่เคยนึกถึงการทำอาชีพอื่นเลย เชฟแอนตันพูดกับเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างใจดีอีกว่า “สำหรับผม การทำอาหารคือชีวิต ผมรู้สึกโชคดีมากที่เลือกอาชีพนี้ และยังคงภูมิใจทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแล้วได้สวมชุดเชฟ”

 

Anton Mosimann

 

เชฟแอนตันเริ่มเข้าครัวอย่างจริงจังครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี รับหน้าที่เชฟครัวเย็น (Pantry Chef) แม้ในตอนนั้นต้องทำงานหนักหลายวันหลายชั่วโมง แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ได้รู้ว่า ‘การเป็นเชฟ’ ไม่ใช่แค่การทำอาหารในครัว เพราะการปฏิบัติตัวต่อผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ก็สำคัญเช่นกัน เชฟแอนตันเล่าว่า ในตอนนั้นเขาได้รู้จักหัวหน้าเชฟ 2 คน ซึ่งมีบุคลิกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ และอัธยาศัยดี ส่วนอีกคนหนึ่งตรงกันข้าม เชฟแอนตันจึงได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่ควรหรือไม่ควรทำตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ยังคงนำมาใช้ในห้องครัวทุกวันนี้ ดังนั้น ห้องครัวของเชฟแอนตันจึงไม่อนุญาตให้มีการตะโกนใส่กันระหว่างการทำอาหาร

 

เชฟแอนตันเป็นผู้ริเริ่มสไตล์การทำอาหารเพื่อสุขภาพ ‘Cuisine Naturelle’ ซึ่งเป็นการทำอาหารโดยไม่ใช้ครีม เนย และแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมเลย นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว เชฟแอนตันเชื่อว่า อาหารที่ดีไม่จำเป็นต้องมีรสชาติฉูดฉาด เพราะอาจทำให้วัตถุดิบหลักหมดความน่าสนใจไปเสีย โดยเชฟแอนตันให้คำแนะนำว่า “สไตล์การทำอาหารสมัยนี้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก มีการผสมผสานหลายวัฒนธรรมในหนึ่งจาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดตราบใดที่ไม่มากเกินไปจนสูญเสียความดั้งเดิม และผมเชื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือ ความเรียบง่าย แต่รสชาติดี”

 

Anton Mosimann

 

เราเชื่อว่าความเรียบง่ายของเชฟแอนตันไม่ได้สะท้อนอยู่บนจานอาหารเพียงเท่านั้น แต่รวมไปถึงความคิด ทัศนคติ และการวางตัวด้วย ทำให้เชฟแอนตันถูกเลือกให้เป็นพ่อครัวสำหรับบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงให้กับราชวงศ์อังกฤษมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร มาจนถึงสมัยเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ที่เชฟแอนตันเป็นผู้รังสรรค์เมนูอาหารในพิธีอภิเษกสมรสครั้งสำคัญ เชฟแอนตันบอกว่าสิ่งที่ทำให้เขาได้รับโอกาสเหล่านี้ก็เพราะการมีทัศนคติที่ดี อาหารที่อร่อย และสำคัญที่สุดคือ ความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้เราแตกต่าง

 

Anton Mosimann

เชฟแอนตัน โมสิแมน และเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์

 

Anton Mosimann

เชฟแอนตัน โมสิแมน และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

 

การเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในหลายๆ ประเทศ ทำให้เชฟแอนตันเมื่อวัย 28 ปี นำดาวมิชลินมาประดับให้ห้องอาหารของโรงแรมแห่งแรกที่เข้าทำงานได้สำเร็จถึง 2 ดวง ก่อนจะได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริติช โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องจากความมุ่งมั่นและอุทิศตนให้แก่อุตสาหกรรมอาหารและการท่องเที่ยว รวมถึงได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ‘The Mosimann Collection’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนในเครือ Swiss Education Group ที่เชฟแอนตันเป็นที่ปรึกษาในการวางหลักสูตรอยู่ในขณะนี้

 

“ผมอยากให้คนรุ่นหลังได้เห็นและใช้เป็นแรงผลักดันตัวเองว่า ‘ถ้าโมสิแมนทำได้ ฉันก็ต้องทำได้’ นี่คือสิ่งที่ผมอยากมอบกลับไปสู่วงการนักทำอาหาร การเป็นเชฟคืออาชีพที่ยิ่งใหญ่ เราสร้างความสุขด้วยการทำให้ผู้คนยิ้มเมื่อได้ชิมอาหาร และได้รับการบริการที่ดี การเป็นเชฟจึงเป็นสิ่งที่ผมรักและอยากถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไป” 

 

แอนตัน โมสิแมน

 

และด้วยความตั้งใจและประสบการณ์ที่มากมายเหล่านั้น เชฟแอนตันจึงเป็นผู้นำให้คำปรึกษาในการวางหลักสูตรแก่คณะกรรมการสถาบันสอนทำอาหารในเครือ Swiss Eduaction Group ที่ขึ้นชื่อการเป็นผู้นำการเรียนการสอนด้านธุรกิจการบริการ โดยมีทั้งหมด 5 สถาบัน พร้อมหลักสูตรที่โดดเด่นไม่ซ้ำกัน ได้แก่ ‘Culinary Arts Academy Switzerland’ สถาบันสอนทำอาหารที่เชฟแอนตันมีส่วนร่วมออกแบบหลักสูตร ซึ่งเราอาจได้เจอเชฟตัวเป็นๆ ในบางชั้นเรียนด้วย ‘César Ritz Colleges Switzerland’ สถาบันธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว และการประกอบการ ‘Hotel Institute Montreux’ สถาบันธุรกิจบริการและการบริหารธุรกิจ ‘IHTTI School of Hotel Management’ สถาบันธุรกิจบริการและการออกแบบ และ ‘Swiss Hotel Management School’ สถาบันธุรกิจบริการ การโรงแรม การจัดอีเวนต์ การจัดการรีสอร์ต และธุรกิจด้านสุขภาพ โดยทุกสถาบันจะเน้นการเรียนการสอนทั้งในและนอกตำรา เพื่อให้ผู้เรียนได้ความรู้จากประสบการณ์จริง

 

แอนตัน โมสิแมน

 

สุดท้ายนี้ เชฟแอนตันฝากถึงทุกคนที่มีความฝันอยากทำอาชีพเชฟว่า อาชีพเชฟเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและวิเศษมาก เราสร้างความสุขให้ผู้อื่นด้วยการทำอาหาร ถึงแม้จะเป็นงานหนัก แต่สุดท้ายแล้วถ้าคุณรักมันและสนุกไปกับมัน อุปสรรคเหล่านั้นก็เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว เชฟจึงอยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเลือก

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI
  • Swiss Education Group เป็นผู้นำการศึกษาด้านอุตสาหกรรมธุรกิจการบริการชั้นนำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ ประกาศนียบัตร (Certificate), ประกาศนียบัตรชั้นสูง (Diploma, Higher Diploma), ปริญญาตรี (Bachelor), อนุปริญญาโท (Post Graduate Diploma) และปริญญาโท (Master)
  • หลักสูตรปริญญาตรี เรียน 3 ปี และรวมการฝึกงานต่างประเทศ 1 ปี, หลักสูตรปริญญาโท เรียน 1 ปี และหลักสูตรการทำอาหาร ช็อกโกแลต ขนมอบ มีหลักสูตรเรียนตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 9 เดือน
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Swiss Education Group Thailand
    โทรศัพท์: 0 2652 1481
    Email: [email protected]
    Facebook: www.facebook.com/swisseducationgroupthailand
    LINE: seg_thailand
    Instagram: seg_thailand
    Website: www.swisseducation.ac
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X