แม้การระบาดของโควิดจะเบาบางลงไปมากแล้ว แต่สิ่งที่ยังอยู่กับหลายองค์กรจากวิกฤตครั้งนั้นก็คือผลกระทบที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมอย่างไม่หวนกลับมา
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ณ เวลานั้นคือการท่องเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงสายการบินต่างๆ ที่ไม่สามารถดำเนินงานได้เนื่องจากการเดินทางหยุดชะงักอย่างฉับพลัน สิ่งนี้ทำให้หลายสายการบินจำเป็นต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดให้ได้
หนึ่งในธุรกิจการบินที่คนไทยน่าจะคุ้นชินและเคยใช้บริการอย่าง AirAsia ก็มีการทรานส์ฟอร์มตัวเองเช่นกัน เมื่อโควิดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามาเป็นบททดสอบให้กับพวกเขา แรงผลักดันนี้ทำให้องค์กรค่อยๆ ปรับตัวจนในปัจจุบัน แคปปิตอล เอ (Capital A) ที่เดิมเปลี่ยนจาก AirAsia Group เมื่อต้นปี 2022 เพื่อปรับตัวเองจากสายการบิน เป็นสิ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในแง่ของการเดินทางให้มากขึ้น
Capital A บริษัทโฮลดิ้งของกลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์หลากหลาย มีหนึ่งหน่วยงานย่อยในเครือคือ airasia Digital ซึ่งเป็นขาธุรกิจด้านดิจิทัล ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น MOVE Digital (MOVE)
โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOVE กล่าวในระหว่างแถลงข่าวที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่าเป้าหมายขององค์กรคือทำให้การท่องเที่ยวในทุกๆ ภูมิภาค โดยเฉพาะในอาเซียนสะดวกสบายมากขึ้น
โดยในอดีตเราคงพอเห็นภาพการวางแผนท่องเที่ยวที่ต้องใช้แอปพลิเคชันจำนวนไม่น้อยในการจองหรือซื้อบริการต่างๆ บางแอปครอบคลุมหน่อยก็สามารถจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินได้ในแอปเดียว แต่ไหนจะเป็นส่วนอื่นของการเดินทาง เช่น การโดยสารบนพื้นดิน ซื้อประกัน จองร้านอาหาร จองสถานที่ท่องเที่ยว และอีเวนต์ เป็นต้น
“ผมเห็นทั้งความไม่สะดวกสบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่กระจัดกระจายไปตามแอปต่างๆ และไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ นั่นคือสิ่งที่เราจะทำให้ดีขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีกว่า”
การรีแบรนด์ครั้งนี้มาพร้อมกับการเปลี่ยนชื่อของ airasia Superapp ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยภายใต้ MOVE เป็น airasia move ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กร
“เราไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ให้บริการสายการบินชั้นหนึ่งหรือโรงแรมหรูหรา แต่จุดยืนของเราคือความคุ้มค่าเพื่อให้นักเดินทางได้เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สะดวกในราคาดีที่สุด” โทนีกล่าวถึงความชัดเจนในธุรกิจ
แต่สิ่งที่เพิ่มมาภายใต้ร่มของ MOVE คือการผนวกแอปพลิเคชันการเงินอย่าง BigPay เข้ามาไว้บนแพลตฟอร์มเดียว ที่จะช่วยให้การชำระเงินผ่าน QR Code ในต่างประเทศ (ชื่อ DuitNow) ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียสามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ ที่เป็นเสมือนการสแกนจ่ายได้แล้วในประเทศสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย การทำแคมเปญช้อปก่อนจ่ายทีหลัง การโอนเงินระหว่างประเทศ หรือแม้แต่บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและการออมเงิน สามารถทำได้ง่ายขึ้นและครบในที่เดียว
ที่ผ่านมา BigPay ร่วมมือกับธนาคารหลักในประเทศไทย เพื่อพัฒนาบริการการเงินสำหรับท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023
ขณะเดียวกันเพื่อสร้างความแตกต่าง จึงมีการเพิ่มฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านกลุ่มแชต โดยผู้แบ่งปันในคอมมูนิตี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ จะได้รับประโยชน์ในรูปของพอยต์รางวัล ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้เกิดเป็นชุมชนของนักท่องเที่ยวที่แข็งแรง
นอกจากนี้ แอปยังสามารถแนะนำนักเดินทางในการค้นหาเพื่อนร่วมทริป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีความสนใจคล้ายกันได้ใช้เวลาร่วมกัน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารถ ได้พร้อมกับฟีเจอร์ช่วยสรุปบิลค่าใช้จ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคนในทริป
สำหรับการเติบโตของ MOVE ธุรกิจขาดิจิทัลของ Capital A ทั้งสองอย่าง airasia move มีจำนวนผู้ใช้งานที่ 15 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ขณะที่ BigPay มีผู้ใช้บัตรเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
Capital A คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 รายได้ของบริษัทเกินกว่าครึ่งจะมาจากส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายการบิน แน่นอนว่าเบื้องหลังก็เพื่อลดความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก หลังจากที่วิกฤตโควิดทำซวนเซอย่างหนัก