Andrew Tate อินฟลูเอ็นเซอร์หนุ่มชื่อดัง ลูกครึ่งสหรัฐฯ-อังกฤษ ถูกจับกุมตัวเมื่อเร็วๆ นี้ หลังชี้ชวนให้ผู้ติดตามเลี่ยงภาษีด้วย Bitcoin และยังถูกตั้งข้อหาคดีสีเทาอีกเพียบ!
นอกจากจะเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังแล้ว Andrew Tate ยังเป็นอดีตนักมวยแชมป์โลก 5 สมัย ที่มีสไตล์การทำคอนเทนต์ออกสื่อที่โผงผางเป็นเอกลักษณ์ ได้ถูกจับกุมตัวในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2022 หลังชี้ชวนให้ผู้ติดตามเลี่ยงภาษีด้วย Bitcoin โดยถูกตั้งข้อหาในคดีค้ามนุษย์ การข่มขืนทางเพศ และประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เอลซัลวาดอร์เอาจริง! เตรียมออก ‘โทเคน Volcano’ ปีนี้ และรุกสร้าง Bitcoin City
- สัญญาณจาก On-Chain ชี้ นักเทรด Bitcoin ระยะสั้น เริ่มมีกำไรแล้ว แนะจับตาแรงขายต่อจากนี้
- จับตา! วงการคริปโตใช้ ‘พลังงานนิวเคลียร์’ ขุด Bitcoin คาดเปิดตัวในสหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปีนี้
ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2023 Bruce Rivers ซึ่งเป็นนักกฎหมายและยูทูเบอร์ชื่อดัง ได้รวบรวมคลิปของ Andrew Tate (อินฟลูเอ็นเซอร์หนุ่มวัย 36 ปี ที่ถูกค้นหาบน Google มากที่สุดในปี 2022) และออกมาวิเคราะห์พฤติกรรมอวดอ้างในการทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยรวมไปถึงการเล่าและชี้ชวนให้เลี่ยงภาษีอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย พร้อมจุดประเด็นว่า Andrew อาจถูกจับในข้อหาเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม Eugen Vidineac นักกฎหมายของ Andrew ในโรมาเนีย ได้ชี้แจงกับ CoinDesk ว่าการถูกจับกุมของ Andrew ไม่มีข้อหาใดที่เกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีแม้แต่น้อย
จากข้อมูลของสื่ออังกฤษอย่าง Mirror รายงานว่า Andrew ทำเงินกว่า 600,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 21 ล้านบาทต่อเดือน จากธุรกิจเว็บแคมสำหรับผู้ใหญ่ออนไลน์ที่จ้างผู้ทำอาชีพบริการทางเพศกว่า 75 รายทั่วโลก
ซึ่งคลิปวิดีโอของ Bruce Rivers ให้ข้อมูลว่า Andrew เคยอธิบายว่าเขาใช้ Chaturbate แพลตฟอร์มเว็บแคมสำหรับผู้ใหญ่เป็นช่องทางทำให้สามารถเลี่ยงภาษีได้ เนื่องจากแพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถรับชำระเงินผ่าน Bitcoin และเมื่อ Bitcoin ถูกโอนเข้าวอลเล็ตส่วนตัวก็ไม่มีใครสามารถตรวจสอบหรือคิดภาษีจากคุณได้แล้ว
Andrew กล่าวไว้ในคลิปวิดีโอว่า “เพียงแค่คุณรับเงินเป็น Bitcoin คุณก็ไม่ต้องจ่ายภาษีให้ใครแล้ว”
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางปฏิบัติของกรมสรรพากรสหรัฐฯ ชี้แจงว่า รายได้ที่ได้รับในรูปของ Bitcoin หรือคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ นั้นถือว่าเป็นรายรับซึ่งต้องเสียภาษีเช่นกัน
ซึ่ง Bruce Rivers กล่าวกับ CoinDesk ว่า Andrew อาจคิดว่าเพียงแค่ Bitcoin ไม่ได้เข้าบัญชีธนาคารแล้วจะตรวจสอบไม่ได้ และนั่นทำให้ไม่ต้องเสียภาษี
แม้ Andrew จะหารายได้จากนอกสหรัฐฯ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนสัญชาติสหรัฐฯ-อังกฤษ ทำให้เขาต้องเสียภาษีตามกฎหมายสหรัฐฯ ด้วย
รวมไปถึงการที่ธุรกรรมของคริปโตนั้นเป็นนิรนามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายกำกับดูแลทางด้านภาษีจะไม่สามารถตรวจสอบได้ โดย Charles Kolstad นักกฎหมายภาษีนานาชาติ กล่าวกับ CoinDesk ว่ากรมสรรพากรของสหภาพยุโรปมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนที่สามารถตรวจสอบธุรกรรมแล้วตามเจอได้แน่นอน
นอกจากนี้ Stefan Loredan นักกฎหมายชาวโรมาเนีย ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของ Andrew กับ CoinDesk ว่า ณ ตอนนี้กฎหมายด้านคริปโตของโรมาเนียยังตามหลังหลายๆ ประเทศอยู่มาก และเนื่องจาก Andrew มาอยู่ในโรมาเนียตั้งแต่ปี 2017 ทำให้ไม่มีกฎหมายใดมารองรับประเด็นด้านคริปโตของ Andrew ได้ ในขณะที่เรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีหรือการฟอกเงินอาจจะยังไม่ชัดเจนในตอนนี้
Stefan มองว่าการพิจารณาคดีในตอนนี้มีโอกาสที่คดีที่มีอยู่อาจจะลดลงได้ และคดีใหม่อาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้ หากพบหลักฐานสำหรับประเด็นใดๆ เพิ่มเติม
อ้างอิง: