ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า ปัจจุบันเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังไม่ใช่เรื่องที่น่าเขินอายกันอีกต่อไป ด้วยสถิติชายรักชายเกินร้อยละ 90 และคู่รักหญิงชายร้อยละ 5-10 มีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
เพศสัมพันธ์ทางประตูหลังถือว่าเป็น ‘รสนิยม’ ตราบใดที่ไม่บังคับให้คนอื่นทำ หรือ
ประกอบกิจเพราะความชอบทั้งสองฝ่ายก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่หากบังคับ อีกฝ่ายไม่ยินยอม ในประเทศไทยถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนในบางประเทศ การกระทำนี้แม้จงใจสมยอมกันทั้งสองฝ่ายก็ยังถือว่าเป็นความผิดทางศาสนาและทางกฎหมาย
ว่าแต่ข้อควรรู้ในการเข้าทางประตูหลังนั้นมีอะไรบ้าง เหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรทราบและคำนึงถึง
ข้อดีของเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
1. เป็นการคุมกำเนิด ไม่ทำให้ท้อง เพราะอสุจิไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ (ยกเว้นมีการปนเปื้อนของอสุจิที่ปากทางเข้าช่องคลอด)
2. ทำให้ถึงจุดสุดยอดง่าย โดยเฉพาะฝ่ายสอดใส่ เพราะหูรูดทวารหนักแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อช่องคลอด แต่ในฝ่ายหญิง เชื่อว่าไม่สามารถถึงจุดสุดยอดจากการร่วมเพศประตูหลัง ยกเว้นมีการกระตุ้นปุ่มกระสัน หรือมีจีสปอต (G spot) ร่วมด้วย (ตามหาจีสปอตกันได้ที่นี่)
3. ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ
ข้อเสียของเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
1. การบาดเจ็บ เนื่องจากเยื่อบุลำไส้ไม่มีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติเหมือนช่องคลอด และการมีเพศสัมพันธ์ทางนี้อาจทำให้ริดสีดวงแตก หรือลำไส้ฉีกขาดจนเกิดอันตรายได้ ดังนั้นต้องใช้น้ำยาหรือเจลหล่อลื่นมากเพียงพอ แต่กระนั้นก็มักจะมีการถลอกของผิวลำไส้ทุกรายจากการมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
2. ติดเชื้อในลำไส้ เนื่องจากลำไส้เป็นที่อยู่ของอุจจาระ ซึ่งมีเชื้อโรคปะปนอยู่หลายชนิด การมีอะไรกันทางด้านหลังจึงเสี่ยงติดเชื้อจากลำไส้ได้ทุกชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไทฟอยด์ ไวรัสตับอักเสบ หรือเชื้อพยาธิลำไส้ เป็นต้น
3. ติดเชื้อโรคร้ายแรง เยื่อบุลำไส้ไม่แข็งแรง เมื่อถลอก ทำให้ติดเชื้อโรคที่ร้ายแรงได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ฝ่ายรับสามารถติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าการร่วมเพศทางช่องคลอด 30 เท่า การมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังจึงควรใช้ถุงยางอนามัยทุกราย
4. เกิดมะเร็ง เชื้อเอชพีวีติดต่อกันทางการสัมผัสหากไม่สวมถุงยางอนามัย และมีโอกาสเป็นหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งอวัยวะเพศได้จากการติดเชื้อเอชพีวี
5. เกิดแผลในลำไส้ การติดเชื้อลำไส้ กว่าจะมีอาการแสดงให้เห็น เช่น เจ็บ มีเลือดออก อาจเป็นมากจนเกิดเป็นแผลในลำไส้
6. หูรูดทวารหนักชำรุด หากเป็นมาก อาจจะมีอุจจาระเล็ดได้
7. อุ้งเชิงกรานและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในผู้หญิงบางคนมีการปนเปื้อนเชื้อโรคตัวร้ายจากทวารหนัก จากการสอดใส่ทั้งทางประตูหลังและช่องคลอด ทำให้ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก และกระเพาะปัสสาวะเกิดการอักเสบได้
การป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
1. ไม่มีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง
2. ทั้งสองฝ่ายต้องยินยอมพร้อมใจกัน
3. เมื่อทำรักประตูหลัง ควรสอดใส่เมื่อพร้อม ทำแบบช้าๆ ไม่ควรรุนแรงหรือเร่งรีบ
4. ควรใช้ถุงยางอนามัยแบบหนาที่ทำด้วยยางพารา ใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำ หรือเจลหล่อลื่นสำหรับทวารหนักโดยเฉพาะ ซึ่งจะเหนียวและหนืด สามารถสั่งซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ต ไม่แนะนำให้ใช้ของในบ้านหรือในครัวมาแปลงเป็นสารหล่อลื่น เช่น ปิโตรเลียมเจล เบบี้ออยล์ หรือน้ำมันทำกับข้าว
5. หากฝ่ายรับรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง ต้องหยุดทันที เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บได้
6. ระวังอย่าสอดใส่ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ทางปาก เพราะจะปนเปื้อนเชื้อโรค ถ้าจะทำ ให้เปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทางสอดใส่
7. การอาบน้ำร้อนก่อนมีเพศสัมพันธ์ และการนอนคว่ำตอนสอดใส่ร่วมกับการใช้สารหล่อลื่น สามารถบรรเทาการบาดเจ็บได้
8. ขณะเข้าด้ายเข้าเข็ม หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง หากมีเลือดออกจากทวารหนักจำนวนมาก หรือเลือดไหลไม่หยุด ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
ภาพประกอบ: Karin Foxx