เอมี่หยาง โปรสาวจากเกาหลีใต้กลายเป็นนักกอล์ฟหญิงคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้ 3 สมัย หลังจากที่เล่นจบ 4 วันมี 22 อันเดอร์พาร์ 266 ขณะที่ โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล เป็นนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานได้ดีที่สุด จบอันดับที่ 10 ร่วม ทำสกอร์รวมได้ 11 อันเดอร์พาร์ ส่วนโปรเม-เอรียา จุฑานุกาล จบอันดับที่ 14 ทำสกอร์รวม 4 รอบได้ 10 อันเดอร์พาร์
โดยรอบสุดท้ายของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปีที่ 13 ชิงเงินรางวัลรวม 1,600,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 53 ล้านบาท ที่สนามสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส ระยะ 6,576 หลา พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี
เอมี่หยาง โปรสาวเกาหลีแชมป์เก่าเมื่อปี 2015 และ 2017 ออกสตาร์ทในฐานะผู้นำหลังจบ 3 วันมี 15 อันเดอร์พาร์ ก่อนที่จะเก็บทั้งหมด 6 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้ายจาก 9 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ คว้าแชมป์สมัยที่ 3 และนับเป็นโปรสาวคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ของรายการนี้ได้สำเร็จ
ส่วนอันดับที่ร่วม 2 ตกเป็นของ ลีมินจี โปร์สาวจากออสเตรเลียที่ 21 อันเดอร์พาร์ อันดับ 3 เป็น คาร์โลตา ซิกานดา นักกอล์ฟหญิงชาวสเปน ที่เก็บเพิ่มถึง 9 อันเดอร์พาร์ในวันสุดท้าย
ขณะที่สองพี่น้องจุฑานุกาลวันนี้ออกก๊วนร่วมกันตั้งแต่เวลา 9.20 น. โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ที่โมรียาและเอรียาได้ออกก๊วนร่วมกันในประเทศไทย โดยรอบสุดท้าย โปรโมเก็บเพิ่มได้ 3 อันเดอร์พาร์ มีสกอร์รวม 11 อันเดอร์ ขณะที่โปรเม เอรียา ทำสกอร์ได้ 2 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 10 อันเดอร์
โดยโปรสาวมือหนึ่งของโลกยอมรับว่ามีความสุขที่ได้เห็นพี่สาว โปรโมลงเล่นร่วมกัน
“วันนี้ดูโมตีสนุกมาก ได้เห็นโมชิปดีมาก ที่เมืองไทยน่าจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ออกร่วมกัน
“จริงๆ ผลงานที่ผ่านมา 2 แมตช์แรก พอมาแมตช์นี้ก็แอบกังวล อยากเล่นให้ดีเพราะเล่นในไทย ด้วยความที่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร แต่หลังจากนี้น่าจะดีขึ้น และจะพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
ส่วนผลงานนักกอล์ฟสาวไทยรายอื่น โปรสายป่าน-ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ จบอันดับที่ 29 ร่วมมี 5 อันเดอร์พาร์, โปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ มี 2 อันเดอร์พาร์ จบอันดับที่ 48 ร่วม, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ และ จีน-อาฒยา ฐิติกุล จบอีเวนพาร์ในอันดับที่ 54 ร่วม, โปรจูเนียร์-ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ที่ทำโฮลอินวันได้เป็นครั้งแรกในรายการนี้ จบที่ 5 โอเวอร์พาร์ในอันดับที่ 62 ส่วน เบญญาภา นิภัทร์โสภณ จบที่ 9 โอเวอร์พาร์ ในอันดับที่ 66
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์