วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย แถลงหลัง 4 แกนนำผู้ชุมนุมถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี
โดยระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 อัยการสั่งฟ้อง โดยศาลไม่ให้ประกันตัวแกนนำ 4 คน ได้แก่ พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และข้อหาอื่น จากการชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 โดยพริษฐ์ถูกสั่งฟ้องมาตรา 112 อีกหนึ่งคดีจากการชุมนุมม็อบเฟส ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563
หลังจากศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว แกนนำทั้ง 4 คนจึงถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพระหว่างรอการพิจารณาคดี จนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้ประกันตัวหรือจนกว่าคดีจะจบ ซึ่งยังไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอน
ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ทางการไทยยังคงใช้อำนาจในกระบวนการยุติธรรมโดยมิชอบ เพื่อปิดปากไม่ให้บุคคลวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและปัญหาสังคม และเป็นส่วนหนึ่งในการยืนยันถึงรูปแบบการคุมขังอย่างยาวนานก่อนพิจารณาคดีของผู้ถูกกล่าวหาในคดีตามมาตรา 112 ภายใต้บริบทของความมั่นคงของรัฐ”
โดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ยังคงเน้นย้ำให้ว่าการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งทางการไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ อีกทั้งการใช้เสรีภาพดังกล่าวยังถูกระบุในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อีกด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า