×

โฆษก ปปง. แจงข้อเท็จจริงปมยึด-อายัดทรัพย์สิน 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป DSI เตรียมเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง เร็วๆ นี้

โดย THE STANDARD TEAM
07.11.2024
  • LOADING...
โฆษก ปปง. แจงข้อเท็จจริงปมยึด-อายัดทรัพย์สิน 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป

วันนี้ (7 พฤศจิกายน) เวลา 11.00 น. ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วย วิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย และในฐานะโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก

 

วิทยาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินในส่วนของ ปปง. ว่า ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหารวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปแล้วจำนวนรวม 320 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นพวกบัญชีเงินฝากที่เก็บเงินจากการซื้อขายหลักทรัพย์

 

ที่ผ่านมาเป็นการยึดและอายัดทรัพย์โดยอำนาจของเลขาธิการ ปปง. ที่เชื่อว่ามีเหตุในการถูกยักย้าย ถ่ายเท อาทิ การจะทำธุรกรรมถอนเงิน แต่ถ้าการยึดและอายัดทรัพย์ตามปกติจำเป็นต้องมีการรอสำนวนการสอบสวนทางคดีอาญาก่อน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเป็นลำดับ

 

ทั้งนี้ ตอนนี้ ปปง. จึงอยู่ระหว่างการประสานงานกับ DSI อย่างต่อเนื่อง เพราะการทำงานของ ปปง. ต้องคู่ขนานไปกับสำนวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวน เพื่อให้เกิดความรอบคอบและนำไปต่อยอด โดยเฉพาะเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ปปง. จึงต้องดูจากสำนวนเป็นหลักด้วย เนื่องจากใช้เป็นฐานในการดำเนินการตามกฎหมายของ ปปง.

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหา 18 ราย หากมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นด้วย ปปง. จะสามารถดำเนินการอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราวได้หรือไม่ วิทยาอธิบายว่า ตามกฎหมายฟอกเงินเราติดตามยึดตัวทรัพย์สินหากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด แม้ว่าคนที่รับโอนหรือครอบครองไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดในคดีเราก็ตามไปอายัดได้ เพียงแต่ว่าการรับโอนของเขามันสุจริตหรือไม่

 

หากสุจริตและมีการเสียค่าตอบแทนก็อาจได้รับการคุ้มครอง แต่ถ้าเขารู้ว่ามันคือทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ปปง. พร้อมย้ำว่า ปปง. มีการเฝ้าระวังการยักย้าย ถ่ายเท และแปลงสภาพของทรัพย์สินในคดีดิไอคอนกรุ๊ปมาตั้งแต่แรก หากมีเหตุน่าเชื่อเลขาธิการ ปปง. ก็จะใช้อำนาจยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปปง. พบกระแสเงินในคดีดิไอคอนกรุ๊ปไหลออกนอกราชอาณาจักรบ้าง หรือถูกเปลี่ยนให้อยู่ในสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีหรือไม่ วิทยากล่าวว่า ยังไม่มีข้อยุติในส่วนนี้ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.​ 2561-2563 แต่ตอนนี้ พ.ศ. 2567 การทำธุรกรรมทางการเงินถือเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ ปปง. ใช้อำนาจก็ต้องมีพื้นฐานในคดีอาญาให้มันชัดเจนด้วย และกระบวนการในการตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ก็ยิ่งต้องใช้หลักฐานเยอะ เพราะบางครั้งบุคคลเหล่านี้ไม่ได้มาร่วมกระทำความผิด แต่เราต้องมีความชัดเจนว่าทรัพย์สินดังกล่าวมันตั้งต้นมาจากเรื่องนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปปง. จะติดตามยึดและอายัดทรัพย์สินได้เทียบเท่ากับมูลค่าความเสียหายหรือไม่ เพราะ ปปง. ยึดไปแล้ว 320 ล้านบาท แต่มวลรวมความเสียหายในปัจจุบันมีกว่า 1 พันล้านบาท วิทยาชี้แจงว่า ทรัพย์สินในคดีที่มีการยึดและอายัด นอกจาก ปปง. แล้ว ก็ยังมีตำรวจและ DSI ที่ยึดพวกอสังหาริมทรัพย์ไว้ จนท้ายที่สุดก็ต้องถูกส่งมาที่ ปปง.

 

โฆษก ปปง. ย้ำว่าจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ไม่อยากบอกว่าจะได้ครบหรือไม่ เพราะเวลามันทิ้งช่วงมาหลายปี ทรัพย์มีการจำหน่าย จ่าย โอน และมันมีความยากในเรื่องการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของ ปปง. เนื่องจากบางรายจ่ายเงิน 250,000 บาท ได้สินค้าไปเท่าไร หรือมีการขายจริงแล้วได้เงิน หรือนำไปบริจาค หรือนำไปให้สุนัขกิน หรือจะคิดค่าเสียหายกันอย่างไร จึงพยายามเคลียร์เรื่องทรัพย์สินให้นิ่งก่อน แล้วจึงจะขยับมาเรื่องคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายตามลำดับ

 

ทั้งนี้ การประกาศคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจะต้องเกิดขึ้นภายหลังจากที่ DSI สรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการเท่านั้น เพราะกฎหมายของ ปปง. คือ ยึดทรัพย์ก่อนแล้วนำมาคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจึงต้องอาศัยหลักฐานในคดีอาญาของพนักงานสอบสวนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นปีไหน แล้วใครมาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ซึ่งจะอยู่ในข่ายที่ ปปง. จะต้องเข้าไปดู สรุปคือการทำเรื่องทรัพย์สินของ ปปง. ต้องชัดเจน ไม่ใช่ไปฟอกขาวให้เขา แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องเงินทำบุญหรือเส้นทางเงินที่อ้างว่าเป็นเงินโอนสำหรับทำบุญ มีหลักการตรวจสอบหรือพิสูจน์อย่างไรบ้าง วิทยาอธิบายว่า เงินทำบุญนั้นวัดที่รับทำบุญสามารถต่อสู้เรื่องของความสุจริตตามธรรมจรรยา กล่าวคือ ตอนที่วัดรับโอนเงิน วัดรู้หรือไม่ว่าเงินนั้นเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ถ้าไม่รู้คือจบ และตามศีลธรรมจรรยาปกติแล้ววัดรับบริจาคลักษณะแบบนี้ใช่หรือไม่ ทั้งหลักสิบบาท หลักร้อยบาท ล้านสิบล้านบาท และหลักร้อยล้านบาท เคยรับไหม ต้องดูประกอบหลายๆ อย่าง

 

ส่วนถ้าเงินโอนเข้าแล้วอ้างว่าเป็นเงินทำบุญ แต่เงินกลับถูกโอนออกไปอีกบัญชีทันทีนั้น อันนี้ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริง แล้วแต่องค์ประกอบ ก็ต้องดูความสุจริตว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก่อนหรือไม่ รวมทั้งใบอนุโมทนาบุญก็ต้องดูประกอบเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่เราต้องดูลึกมากกว่านั้นเพื่อพิสูจน์ความสุจริตของเขา

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ดินของ บอสกันต์ กันตถาวร ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ติดกับวัดคีรีเขต (วัดทุ่งโป่ง) ทอดยาวไปถึงลำน้ำแม่ท่าช้าง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งหมด 7 ไร่ 70 ตารางวา อยู่ในรายการทรัพย์สินของคณะกรรมการธุรกรรมที่จะต้องตรวจสอบหรือไม่นั้น วิทยากล่าวว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเรื่องที่ดินเราไม่ค่อยห่วง แต่เพื่อความรอบคอบก็ต้องมีความชัดเจนเพียงพอว่ามันเป็นทรัพย์ที่เขาได้มาครอบครองในช่วงเวลาใด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมสนใจห้วงไทม์ไลน์ พ.ศ. 2562-2564 ที่ธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ปได้รับความนิยม มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่ารายการทรัพย์สินต่างๆ ที่เหล่า 18 บอสได้มาครอบครองนั้นจะเป็นการได้มาด้วยเงินที่มาจากการทำธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป วิทยาชี้แจงว่า ปปง. มีความจำเป็นต้องรอดูสำนวนของพนักงานสอบสวนหรือคดีอาญาก่อนว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดถูกขีดเส้นตั้งแต่ช่วงใด เพื่อให้เป็นขอบเขตในการดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินด้วย จึงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ

 

นอกจากนี้วิทยากล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการประชุมของคณะกรรมการธุรกรรมมีการประชุมในทุกเดือน แต่เราก็ไม่อยากกำหนดเวลาการทำงานของพนักงานสอบสวน เพราะพนักงานสอบสวนต้องมีความรอบคอบในการทำงาน ถ้าทันก็สามารถเสนอได้ อีกทั้งก็แล้วแต่ข้อเท็จจริงด้วย แต่ยืนยันว่าจะทำให้เร็ว เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังรอความหวัง

 

ขณะที่ พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะเข้าไปแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา ส่วนจะทันพรุ่งนี้ (8 พฤศจิกายน) หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจเอกสารบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา หากพรุ่งนี้ทันก็จะดำเนินการเลย และจะต้องนัดพร้อมทนายความของผู้ต้องหาให้เรียบร้อยด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ตนยังไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานสอบสวน แต่ให้ความมั่นใจว่าในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ตนต้องย้ำว่าตอนนี้เราเร่งดำเนินการกับกลุ่มแรกก่อน เพราะมันมีระยะเวลาควบคุม ซึ่งในฐานความผิดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้คือฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สามารถฝากขังได้ 48 วัน แต่เมื่อ DSI จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 จะขยายเวลาควบคุมได้ถึง 84 วัน แต่หลักฐานเอกสารในสำนวนปัจจุบันนี้มีกว่า 2 แสนแผ่น พนักงานสอบสวนจึงต้องเรียบเรียงและรวบรวมเพื่อจะสรุปสำนวนคดีให้ทัน ทั้งนี้ ในกรณีผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ที่ DSI จะต้องขยายผลต่อนั้นก็จะยังอยู่ในระยะเวลา และย้ำว่าจะเร่งทำให้รวดเร็ว

 

ส่วนกรณีที่ วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล แจ้งว่า หาก DSI ไม่สอบปากคำพยานของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ให้ครบ 2,000 ปาก หรือพยายามจะตัดจำนวนพยานนั้น จะมีการขอความเป็นธรรมและอาจถึงขั้นดำเนินคดีมาตรา 157 ต่อพนักงานสอบสวนนั้น พ.ต.ต. ยุทธนา ชี้แจงว่า ตนแจ้งให้ทนายความไปจัดทำบัญชีรายชื่อพยาน ระบุความเกี่ยวข้องและประเด็นที่พยานทั้ง 2,000 รายประสงค์ให้ข้อมูล ซึ่งก็ต้องมาดูว่าเป็นประเด็นเดียวกันหรือซ้ำกันหรือไม่ พร้อมย้ำว่าทุกอย่างเป็นอำนาจและดุลพินิจของพนักงานสอบสวน หากพนักงานสอบสวนได้รับฟังประเด็นและการชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ แล้ว ก็ต้องให้พนักงานสอบสวนได้พิจารณาเท่าที่จำเป็น

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X