×

American Outperform ทำไมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึงดีขนาดนี้!

09.04.2024
  • LOADING...

ปี 2024 เป็นอีกปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้ต่อเนื่อง จนแทบไม่มีใครพูดถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่หลายบริษัทกำลังวิ่งไปหาวัฏจักรเศรษฐกิจรอบใหม่อย่าง AI แล้ว

 

ฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ทำผลงานเด่นไม่แพ้กัน เพียงไตรมาสแรก ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นถึง 11% เป็นไตรมาสแรกที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 แถมครั้งนี้เป็นการปรับตัวขึ้นพร้อมกับบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ทั้งระยะสั้นและยาวเสียด้วย เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีดีอย่างไร และตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะไปต่อไหม จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ให้ทัน

 

ในมุมมองของผม การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วนั้นเกิดจากพื้นฐานที่มีความเป็นผู้ประกอบการสูง กล้ารื้อสร้างใหม่ และสิ่งที่สร้างใหม่มักได้รับแรงสนับสนุนและดีกว่าสิ่งเก่า

 

แม้เราจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่าตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มากกว่า 50% ของบริษัทใน Fortune 500 ล้มละลายหรือถูกซื้อกิจการไปแล้ว นอกจากนี้บริษัทในรายชื่อตั้งต้นของ 500 บริษัทในปี 1955 ปัจจุบันเหลือแค่หนึ่งในสิบ

 

ถ้าเป็นเศรษฐกิจปกติสถิตินี้อาจทำให้นักลงทุนหลายท่านมองว่าใกล้ล่มสลาย แต่ไม่ใช่สำหรับสหรัฐฯ เพราะด้วยกฎหมายล้มละลาย แนวคิดการเป็นผู้ประกอบการ และการสนับสนุนของรัฐ ทำให้การสร้างใหม่ดีกว่าเดิม

 

เห็นได้ชัดจากตลาดหุ้น ย้อนกลับไปที่ปี 2000 10 บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ มีเพียง Microsoft เท่านั้นที่ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แต่บริษัทใหม่ก็ดีกว่าเก่าผิดหูผิดตา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon และ Alphabet หรือบริษัทเล็กๆ Market Cap แค่ 3,000 ล้านดอลลาร์ในตอนนั้นอย่าง NVIDIA ก็มีช่องว่างให้เติบโต สร้างธีมใหม่ และกลายเป็นบริษัทขนาด 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้

 

ดังที่ Henry Ford เคยกล่าวไว้ว่า “Failure is the only opportunity to begin again more intelligently”

 

สิ่งที่สองที่ทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำได้ดีกว่าที่อื่น ต้องยกให้เรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

 

ย้อนกลับไปช่วงหลังการทลายกำแพงเบอร์ลินปี 1989 จนถึงทศวรรษ 2000 สหรัฐฯ กล้าริเริ่มธุรกิจใหม่ กล้าให้ดอลลาร์ได้เป็นสกุลเงินสำรองของประเทศอื่น ความสำเร็จของนโยบายเศรษฐกิจทำให้ความผันผวนของตลาดลดลงอย่างมีนัย

 

สำหรับตลาดหุ้น American Outperform เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่หลัง Great Financial Crisis ความกล้าเปลี่ยนด้วยการใช้นโยบายการเงินนอกตำราอย่าง QE ความสำเร็จทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

 

ส่วนด้านการคลัง วิกฤตโควิดเป็นจังหวะที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐฯ กล้าที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างมหาศาล จนบริษัทต่างๆ กล้าที่จะพัฒนาต่อไม่ต้องรอเศรษฐกิจฟื้น

 

การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีประชากรเพียง 340 ล้านคน หรือคิดเป็นแค่ 4.2% ของโลก สามารถรักษาขนาดเศรษฐกิจระดับ 28 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 25% ของโลก และมีขนาดตลาดหุ้นคิดเป็นกว่า 64% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก

 

เทียบกับประเทศที่หันมาเน้นความมั่นคงควบคุมได้อย่างจีน แม้จะมีประชากรถึง 1,400 ล้านคน (17.7% ของโลก) แต่ขนาดเศรษฐกิจและตลาดทุนก็หยุดเพียงราว 17% และ 14% ของโลก ตามลำดับ

 

แล้วอะไรจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนเป็น American Underperform ผมมองว่ามีด้วยกัน 3 สัญญาณ

 

การลดการใช้ดอลลาร์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศหรือ De-Dollarization คือสัญญาณแรก

 

ผมเชื่อว่าเหตุผลที่จะต้องถือเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองหลักนั้นลดลงมาก เพราะการอัดฉีดนโยบายมหาศาลเริ่มส่งผลกระทบให้กับต้นทุนทางการเงิน พร้อมกับระดับหนี้สาธารณะที่สูงเป็นประวัติการณ์ ถ้าประเทศไหนเริ่มการเปลี่ยนแปลงด้านทุนสำรองอย่างมีนัย (5-10%) อาจถึงเวลาต้องกลับมาวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของพื้นฐานเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ กันใหม่

 

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหรือ Rise of World Economy คือสิ่งที่ต้องจับตาอย่างที่สอง

 

ตลาดหุ้นเป็นเครื่องสะท้อนได้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันไม่มีตลาดไหนจะมีหุ้นเทคโนโลยีใหญ่และเติบโตสูงได้มากเท่าสหรัฐฯ เป็นที่มาของผลตอบแทนที่ชนะทั้งโลก แต่ในอนาคตผมเชื่อว่าจะเป็นเวลาของ Adaptor หรือผู้ที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าเริ่มมีเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯ ทำได้มากขึ้น American Outperform ก็จะลดลงตามลำดับ

 

ท้ายที่สุดคือ Policy และ Politics จับตาการเลือกตั้งช่วงปลายปีนี้

 

ผมเชื่อว่าที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดหุ้นไม่กังวลกับการเลือกตั้งปี 2024 ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตัวแทนผู้สมัครทั้งสองท่านเคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว และความขัดแย้งก็สูงเสียจนอาจไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้

 

แต่จากนโยบายหาเสียงของทั้งสองท่านปัจจุบัน ถ้ามีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ชนะเด็ดขาดทั้งประธานาธิบดี สภาสูง และสภาล่าง ผมเชื่อว่า American Outperform จะต้องถูกทดสอบแน่นอน

 

ส่วนตัวผมมองว่าเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ Outperform อย่างมีพื้นฐาน ลงทุนได้ แค่ต้องจับตาว่าพื้นฐานที่ดีกว่าโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ครับ

 

รายชื่อบริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ 10 อันดับแรก ปี 2000 และ 2024

 

อ้างอิง: Bloomberg

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X