×

“ลงทุนกับคนที่มีความสามารถ และตัดทิ้งคนที่ไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง” ลิซ่า ซู AMD คว้า CEO แห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME

12.12.2024
  • LOADING...
ลิซ่า ซู

ลิซ่า ซู CEO แห่ง AMD ในวัย 55 ปี ได้รับเลือกให้เป็น CEO แห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องทั้งด้านวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากบริษัทที่เกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน สู่ผู้นำวงการเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก โดย Chris Miller นักประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และผู้เขียน Chip War ยกย่องว่า AMD เป็นหนึ่งในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ธุรกิจอเมริกันยุคใหม่

 

ลิซ่า ซู เป็นวิศวกรหญิง ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง CEO ของ AMD เมื่อปี 2014 ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญวิกฤตราคาหุ้นตกต่ำลงราวๆ 3 ดอลลาร์ ในปีนั้นส่วนแบ่งตลาดชิปศูนย์ข้อมูลของบริษัทตกลงมาอย่างมากจนแทบจะเป็นศูนย์ กระทั่งคนในวงการอุตสาหกรรมมตั้งคำถามว่า บริษัทจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

 

หลังจากนั้นเธอพยายามฝ่าวิกฤตสงครามชิปด้วยการฝึกฝนและเข้าอบรมจนได้เป็นผู้นำในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ AMD ใหม่ ซูไม่ยอมแพ้ในการคิดค้นออกแบบ ในขณะเดียวกันเธอสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ทำให้ AMD เริ่มกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง โดยเธอเห็นโอกาสในเทคโนโลยี AI จนผลักดันให้ AMD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเซมิคอนดักเตอร์และ AI ในที่สุด และในปี 2022 มูลค่ารวมของบริษัทแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Intel เป็นครั้งแรก ปัจจุบันหุ้นของ AMD ซื้อขายอยู่ที่ราว 140 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบถึง 50 เท่า นับตั้งแต่เธอก้าวขึ้นรับตำแหน่ง

 

หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของลิซ่าคือการพัฒนาชิป Zen ซึ่งช่วยให้ AMD สามารถแซงหน้า Intel คู่แข่งหลักในตลาดชิป สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดต้องการชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการใช้งาน AI นอกจากนี้เธอยังผลักดันให้ AMD เข้าสู่ตลาด AI อย่างเต็มตัวด้วยการพัฒนาชิป Instinct MI300X ที่ออกแบบมาสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ซึ่งกลายเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนระบบ AI อีกด้วย

 

นอกจากนี้ความสำเร็จของเธอเป็นต้นแบบความสำเร็จ และเป็นกรณีศึกษาให้กับ Harvard Business School นำไปสู่การเรียนการสอนเรื่องการบริหารจัดการ AMD 

 

“นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวการพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ธุรกิจอเมริกันยุคใหม่” Chris Miller นักประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และผู้เขียน Chip War กล่าว

 

แม้จะมีความก้าวหน้าเรื่อยมา แต่ AMD ยังคงเป็นเบอร์ 2 ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ในขณะที่ทีมของเธอกำลังแซง Intel บริษัททั้งสองก็ถูก NVIDIA ซึ่งบริหารโดย Jensen Huang ลูกพี่ลูกน้องของเธอแซงหน้าไป ซึ่งในเวลาสองปี NVIDIA ก้าวขึ้นมาจากบริษัทที่ตามหลังอุตสาหกรรมจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก NVIDIA แซงหน้าคู่แข่งได้สำเร็จ กระทั่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา AMD ประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 4% ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อมุ่งเน้นไปที่การแสวงหาโอกาสจาก AI 

 

ลิซ่าเริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับลูกค้าเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Microsoft, Amazon และ Meta ซึ่งร่วมลงทุนและใช้ชิปของ AMD ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI, ChatGPT ด้วยการสร้างความร่วมมือในระดับนี้ AMD ไม่เพียงแต่ขยายฐานลูกค้าภายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในตลาด AI ระดับโลกในคราวเดียวกัน ท่ามกลางบริษัทยังคงเผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันในตลาดชิป AI โดยเฉพาะจาก NVIDIA ที่ครองตลาดชิป AI ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่บางรายเริ่มออกแบบชิป AI ใช้เอง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความเป็นผู้นำที่มั่นคงของลิซ่า ผู้คนในวงการเชื่อมั่นว่า AMD จะสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้ และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

สำหรับประวัติของลิซ่า เธอเกิดที่ไต้หวันและย้ายไปสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เธอเติบโตในนิวยอร์กซิตี้และชื่นชอบในวิชา STEM ตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มสนใจการเขียนโปรแกรมพื้นฐานบนคอมพิวเตอร์ Commodore 64 ในขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษาเธอสร้างโครงการด้านวิทยาศาสตร์ด้วยการจำลองเฮอริเคนในกล่องพร้อมน้ำเดือดและหน้าต่างสำหรับดูพายุน้ำวน

 

หลังจากนั้นเธอตัดสินใจเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นวิชาเอกที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และได้รับปริญญาเอกในสาขานี้ในที่สุด

 

หลังจากนั้นเธอประทับใจกับแนวคิดที่ว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นเดียวสามารถบรรจุพลังงานทางคณิตศาสตร์ได้มากมาย เธอจึงใช้เวลาช่วงปีแรกในก้าวแรกของอาชีพกับ Texas Instruments และ IBM ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ โดยบริษัทเหล่านี้สอนให้เธอรู้จักวิธีบริหารธุรกิจและจัดการทีม หลังจากนั้นเธอรับตำแหน่งรองประธานที่ AMD ในปี 2012 และในปี 2014 ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น CEO

 

“ฉันรู้สึกเหมือนกำลังได้รับการฝึกฝนเพื่อสร้างโอกาสที่จะทำสิ่งที่มีความหมายในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และ AMD คือโอกาสของฉัน“ เธอกล่าวในวันเข้ารับตำแหน่ง 

 

กว่าจะมีวันนี้เธอก้าวผ่านอุปสรรคมากมาย คนที่รู้จักเธอต่างบอกว่าลิซ่าเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ซึ่งมักจะลงทุนในบุคลากรที่มีความสามารถ และทิ้งบุคลากรที่ไม่ทุ่มเท ไม่พัฒนาตัวเองให้กับงานอย่างเต็มที่

 

“ฉันไม่เชื่อว่าผู้นำเกิดมาแล้วทำได้เลย ฉันเชื่อว่าผู้นำต้องได้รับการฝึกฝนมา” เธอบอกกับนิตยสาร TIME

 

โดยสไตล์การทำงานของเธอนั้น ก่อนการประชุมกลยุทธ์เธอมักจะเสนอแนะตรงไปตรงมากับผู้บริหารของเธอ และกระตุ้นให้ทำงานเร็วขึ้นและมอบหมายงานให้มากขึ้น เธอมักพูดคุยกับทีมในช่วงเช้าเกี่ยวกับประเด็นที่ละเอียดอ่อนของเอกสารยาวๆ อีกทั้งเมื่อชิปต้นแบบถูกส่งมาจากโรงงาน ลิซ่ามักจะไปที่ห้องแล็บด้วยตัวเองเพื่อช่วยตรวจสอบชิปเหล่านั้น

 

ปัจจุบัน AMD เป็นผู้นำในการออกแบบ CPU และ GPU ชั้นนำของโลก ซึ่งขับเคลื่อนตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี AI ด้วยวิสัยทัศน์การมองไปข้างหน้าและสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์โลกยุคใหม่ AMD ภายใต้การนำของลิซ่า ซู จึงเป็นหนึ่งในบริษัทที่พร้อมจะพลิกโฉมอนาคตของวงการเทคโนโลยีโลกในอนาคต

 

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X