ในบรรดายนตรกรรมจากค่ายฮอนด้า Civic ถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่จากทั่วโลก จากการพัฒนาดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำตลอด 10 เจเนอเรชันที่ผ่านมา รวมถึงฟังก์ชันการใช้งาน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอด และในประเทศไทยเองนั้น Honda Civic ก็เป็นผู้นำในกลุ่ม C-Segment มาอย่างยาวนาน จนทำให้ต้องสืบหาว่า All New-Honda Civic GEN 11th ที่เพิ่งคลอดเมื่อไม่นานมานี้ จะมาสร้างปรากฏการณ์อะไรให้วงการตลาดรถยนต์บ้าง เราจะเล่าให้คุณฟัง
ขอเริ่มต้นที่การถ่ายทอดมรดกจากรุ่นสู่รุ่นของ Civic ซึ่งต้องยอมรับว่าการที่ฮอนด้า เลือกนำรถยนต์รุ่นนี้มาเป็น 2 รุ่นแรกในการบุกเบิกทำตลาดรถในเมืองไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ถือเป็นการอ่านเกมขาด เพราะจากนั้นมา Civic ก็ไม่เคยหลุดซีนจากตลาดรถยนต์ในเมืองไทย แถมยังเพิ่มจำนวนสาวกมากขึ้นเรื่อยๆ จากความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ภายนอก สมรรถนะสไตล์สปอร์ต ขับขี่สนุก และความสะดวกสบายครบครันในคันเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ DNA ของ Honda Civic ที่ถูกถ่ายทอดตามกันมาจวบจนถึงรุ่นปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวเดินไปอย่างไม่หยุดยั้ง และ Civic ในทุกๆ รุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะทางนวัตกรรมเป็นของตัวเอง หากแต่ความโดดเด่นซึ่งเป็นลายเซ็นหลักที่ถูกใจผู้ขับขี่ชาวไทยก็ยังคงเก็บไว้ได้อย่างดีทุกกระเบียดนิ้ว สะท้อนผ่าน New Generation ที่แสนจะครบเครื่องใน All-new Honda Civic GEN 11th ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรากำลังจะเล่าให้คุณฟัง
มาตรฐานค่านิยมใหม่ในตลาดรถยนต์ C-Segment
แม้ว่าจะเกิดการชะลอตัวในอุตสาหกรรมรถยนต์ จากผลกระทบของวิกฤตโรคระบาด Covid-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก แต่ความต้องการในการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ของกลุ่มผู้บริโภคยังคงมีอยู่ ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่ายหลังสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้นรถยนต์ที่จะตอบโจทย์ยุคสมัย จึงต้องผันเปลี่ยนจุดเด่นไปตามความนิยมของผู้บริโภค กล่าวคือ ต้องสุมรวมไปด้วยความคุ้มค่า และอเนกประสงค์ ในราคาที่สมเหตุสมผล แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มีอยู่ในคุณสมบัติของ All-new Honda Civic อย่างครบถ้วน และที่ต้องอวยยศเป็นพิเศษ คือการให้ความสำคัญกับทุกรุ่นย่อย ด้วยการยกระดับมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัย และ สมรรถนะของเครื่องยนต์ ที่ทรงพลังใน All-new Honda Civic ทุกคัน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่โลกคนรักรถต้องจารึก กับการที่ Honda Civic ไม่ใช่แค่ยกระดับมาตรฐานใหม่ แต่ต้องการสร้างประสบการณ์ขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความคุ้มค่าแบบจัดเต็มให้กับทุกรุ่นย่อย กับเครื่องยนต์ VTEC TURBO 1.5 ลิตรใหม่ พร้อมระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า มีอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ที่ 17.2 กม./ลิตร และรองรับพลังงานทางเลือก E85 ตอบโจทย์คนที่อยากได้ความคุ้มค่าพร้อมกับความทรงพลังเร้าใจตามจิตวิญญาณของ Honda Civic
ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ก็ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี Honda SENSING พร้อมระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN) ที่จะคอยแจ้งเตือน เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ อีกทั้งการยกระดับความหรูหราในเรื่องของดีไซน์ทั้งภายนอก และภายใน พร้อมฟีเจอร์เทคโนโลยีความสะดวกสบายอื่นๆ แบบจัดเต็ม ในฐานะผู้บริโภค นี่คือคะแนนนิยมอย่างดีสำหรับ Honda Civic เพราะเมื่อพูดถึงรถยนต์สไตล์สปอร์ตซีดาน สิ่งแรกที่ผู้บริโภคมองหาคือสมรรถนะในการขับขี่ที่เร้าใจ และในส่วนของความปลอดภัย คือเครื่องสะท้อนว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับชีวิตคนใช้รถใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นระดับไหนก็ตาม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ประทับใจได้อย่างไร
ไฮไลต์สุดโดดเด่น ประทับใจเหนือคำบรรยาย
นอกจากความใส่ใจในทุกรุ่นย่อยแล้ว กับตัวท็อปรุ่น RS ก็ยังอัดแน่นด้วยขุมพลังเติมเต็มความภาคภูมิใจให้ผู้ขับขี่ทุกมิติสมกับการเป็นสปอร์ตไอคอนิก โดยได้ยกระดับสร้างมาตรฐานใหม่ผ่านไฮไลต์ทั้ง 5 มิติ ได้แก่
Crafted Design: ดีไซน์ระดับงานคราฟต์ คุมโทนด้วยลุคสปอร์ตดุดันสีดำรอบคัน ไล่มาตั้งแต่ กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยปลอกท่อไอเสียคู่ และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว กระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นลายเซ็นสะกดใจสาวกถูกปรับโฉมใหม่ให้เร้าใจยิ่งขึ้น ระบบไฟหวือหวา เพิ่มเติมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED และไฟท้าย LED เรื่อยมาจนถึงภายในห้องโดยสารก็แต่งเติมความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้า แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
Driving Performance: ขับขี่สนุก ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์วควงคู่มากับ Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่สนุกสุดขั้วด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์ CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 17.2 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E85 ทั้งยังปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ ECON Mode (โหมดการขับขี่แบบประหยัด), Normal Mode (โหมดการขับขี่แบบปกติ), Sport Mode (โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต)
Comfort Experience: ยกระดับความสะดวกสบาย ด้วยการออกแบบห้องโดยสารให้กว้างขวาง จะสรีระแบบไหนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่สมบูรณ์แบบได้ ท่ามกลางการตกแต่งภายในที่เปี่ยมไปด้วยความพรีเมียม เสริมความมีรสนิยมไร้ที่ติ และสัมผัสใหม่กับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกกับระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ดีไซน์หรูหรา พกพาสะดวก สามารถล็อก และปลดล็อกประตูได้ง่ายดายเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว
Smart Connection: ตอบโจทย์ยุคสมัยไร้สาย ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสุดล้ำและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), ระบบเครื่องเสียงหน้าจอใหญ่จุใจถึง 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่สามารถแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอย่างอิสระ รวมไปถึง ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น
Safety & Driving Technology: ระบบความปลอดภัยเต็มขั้น มั่นใจได้ทุกเส้นทาง ด้วย Honda SENSING ที่มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า สิ่งนี้มีไว้เพื่อคนใช้รถและคนใช้ถนนโดยแท้ เพราะมันสามารถช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ชะลอความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย หากจวนตัวจริงๆ ก็ยังมีระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความเสียหายจากการชนน้อยที่สุด ไม่เพียงแค่นั้น ระบบนี้ยังช่วยในการขับขี่ เพราะจะช่วยควบคุมความเร็ว ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ช่วยเตือนและควบคุมเมื่อออกนอกช่องทางเดินรถ และยังมีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และที่เจ๋งสุดๆ คือ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่ถูกใส่มาใน Civic เจเนอเรชันนี้
ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ก็ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยได้อย่างครบเครื่อง
ทั้งหมดนี้ คือการเดินหมากอย่างชาญฉลาดในตลาดรถยนต์ยุคนี้ของ Civic ที่มากกว่าการขับขี่ แต่เป็นความคุ้มค่าในทุกมิติ จนกลายเป็นนิยามใหม่ของความสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน เพราะไม่ว่าจะมิติไหน All-new Honda Civic ก็คุ้มค่าเกินกว่าเนื้อที่ตรงนี้จะบรรยายได้ ที่เหลือคือต้องพิสูจน์จากการขับขี่ด้วยตัวเอง
หากใครสนใจก็สามารถไปสัมผัสและทดลองขับ All-new Honda Civic ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือสามารถลงทะเบียนเพื่อแชทกับที่ปรึกษาการขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3lu97sK
หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 023417777
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.honda.co.th/civic