วันนี้ (7 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงประเด็นการเสนอชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แข่งกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตพรรคก้าวไกล และการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ตนเคยหารือประเด็นนี้กับพีระพันธุ์ก่อนที่จะมีการโหวตประธานสภาด้วยซ้ำ ซึ่งพีระพันธุ์ก็ยืนยันว่าไม่มีทาง
“ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ รวมไทยสร้างชาติจะไม่ส่งพีระพันธุ์ไปแข่งนายกฯ ไม่มีแต่ ไม่มีถ้า ไม่อะไรทั้งสิ้น ถึงอย่างไรก็ไม่ส่ง และไม่ส่งทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ถึงแม้ว่าเราประกาศจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่เห็นด้วยกับนายกฯ หรือประธานสภาที่มีจุดยืนผลักดันแก้ไขกฎหมาย ม.112 แต่เราก็ไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
“เรื่องนี้ผมได้หารือกับพีระพันธุ์ชัดเจนว่า ถึงแม้เราจะสู้ ก็คงไม่สู้จนกระทั่งประเทศเสียหาย ถึงเสนอชื่อไป อยู่ดีๆ เกิดมีคนโหวตขึ้นมา และเกิดชนะ แต่รัฐบาลมีเพียงเสียงข้างน้อยในสภา ประเทศมันไปไม่ได้ ถึงตั้งรัฐบาลได้ก็อยู่ไม่ได้ เราไม่ทำแบบนั้น” เอกนัฏกล่าว
เมื่อถามว่า ใครบอกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจ้องจะเสียบอยู่ เอกนัฏยืนยันว่าไม่มีแน่ เอาตำแหน่งของเขาเป็นประกัน เพราะทำไม่ได้ คือตั้งไป ได้เป็นรัฐบาล ก็มีเสียงไม่ถึง 250 ในสภา จะผ่านกฎหมายหรือแม้กระทั่งงบประมาณมันทำไม่ได้ แล้วที่คิดว่าตั้งไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยไปหางูเห่า พวกนั้นฝันทั้งหมด ทำไม่ได้
เอกนัฏกล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ตนโพสต์เรื่องนี้ชัดเจน ยังมีคนพยายามออกมาวิเคราะห์ว่าคอยดูวันที่ 13 กรกฎาคม พลิกแน่นอน ตนบอกได้เลยว่าพนันกันก็ได้ ตนเอาตำแหน่งเป็นประกันว่าไม่มีทางแน่นอน วันที่ 13 กรกฎาคม เราไม่ส่ง แต่เราสู้แน่นอน เพราะตนประกาศชัดว่าไม่โหวตให้พิธา ซึ่งตนไม่มีความรู้สึกบาดหมางส่วนตัวต่อกัน แต่จุดยืนของเราไม่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอกนัฏกล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีการหารือหรือพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่ถ้ามีพรรคไหนเสนอชื่อขึ้นมาเพื่อที่จะผลักดันการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราไม่สนับสนุน
ส่วนได้คุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ หรือไม่นั้น เอกนัฏกล่าวว่า ขออนุญาตเป็นความลับ จริงๆ ตนสนิทกับนายกฯ มาก คุยกันตลอดหลายเรื่อง ซึ่งนายกฯ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและรักประเทศ เชื่อว่านายกฯ ไม่มีเจตนาผลักดันสู้จนถึงขั้นตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เรายืนหยัดในอุดมการณ์ที่เราประกาศไว้ ไม่ใช่ไปสู้จนสร้างปัญหาให้ระบบการเมืองและประเทศ ไม่คุ้มกัน เพราะจะทำให้ระบบการเมืองวุ่นวาย ลองจินตนาการดู ถ้าเราส่งชื่อพีระพันธุ์ แล้วมี ส.ส. และ ส.ว. ช่วยโหวต ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในสภามีไม่ถึง 250 เสียง เปิดสภามากฎหมายก็ผ่านไม่ได้ งบประมาณ ส.ส. ฝ่ายค้าน ไม่โหวตให้จะทำอย่างไร เกิดมีอภิปรายไม่ไว้วางใจก็น็อกตั้งแต่แรกเลย
มันอยู่ไม่ได้ และวันก่อนอนุทินก็ประกาศชัดว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำให้เสียงของภูมิใจไทยหายไปแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ จึงขอให้สบายใจตรงนี้ แต่จุดยืนเราชัดเจนเรื่องการแก้ ม.112 และการแบ่งแยกดินแดน จะสู้อย่างตรงไปตรงมาคือ รวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียงก็จะไม่โหวตให้ก็แค่นั้น ไม่ใช่จะต้องส่งนายกฯ และชิงกันตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เล่นแบบนั้นเสียหายกันทั้งหมด มันไม่คุ้มค่า” เอกนัฏกล่าว
เมื่อถามว่า เป็นฝ่ายค้านร้อยเปอร์เซ็นต์ เอกนัฏกล่าวว่า “พวกผมคุยกันทั้ง 36 คนแล้วว่าไม่มีใครติดใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน เป็นก็เป็น และจะเป็นให้ดีด้วย”
อ้างอิง:
- กรรมกรข่าว คุยนอกจอ
