‘เอไอเอส’ ชนะข้อพิพาทชั้นอนุญาโตตุลาการ ไม่ต้องจ่ายเงินแบ่งรายได้ 1.12 พันล้านให้ ‘NT’ แต่ยังจับตาความเคลื่อนไหวต่อ เหตุ NT มีสิทธิขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลางภายใน 90 วัน คดีนี้จึงยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ด้านโบรกเกอร์แนะ ‘ซื้อ’ ADVANC ชี้มี Upside-จ่ายปันผลสม่ำเสมอ
บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ ‘เอไอเอส’ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องส่วนแบ่งรายได้ค่าเช่าระบบสื่อสัญญาณ (Transmission) ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างบริษัท กับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) โดย NT เรียกร้องให้บริษัทชำระเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมจากรายได้ค่าเช่าระบบสื่อสัญญาณเชื่อมโยง (Transmission) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 – กันยายน 2558 เป็นจำนวน 1,121.91 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดชำระ เนื่องจาก NT เห็นว่าบริษัทจะต้องเรียกเก็บค่าเช่าตามอัตราที่ NT กำหนด ซึ่งสูงกว่าอัตราที่บริษัทใช้เรียกเก็บจากผู้เช่าจริง
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กล่าวว่า บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 เรียกร้องให้บริษัทชำระเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมจากรายได้ค่าเช่าระบบสื่อสัญญาณเชื่อมโยง (Transmission)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘ADVANC’ ขายบริษัทร่วมทุน AISCB ซึ่งทำธุรกิจ Digital Lending ในสัดส่วน 50% ให้ ‘SCBX’ แต่ยังเปิดโอกาสร่วมมือกันในธุรกิจอื่น
- หุ้นกลุ่มสื่อสาร – ADVANC เดินหน้าซื้อ TTTBB และ JASIF
- ADVANC – 3Q65 กำไรปกติเป็นไปตามคาด
โดยล่าสุดวานนี้ (19 ธันวาคม) บริษัทได้รับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ให้ยกคำเสนอข้อพิพาทของ NT ซึ่งไม่อาจรับฟังได้ว่าบริษัทผิดสัญญาตามที่ NT กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม NT มีสิทธิขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลางภายใน 90 วัน คดีนี้จึงยังไม่เป็นที่สิ้นสุด
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มุมมองเป็นกลางต่อข่าว ADVANC ชนะข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการ ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่ม 1.12 พันล้านบาทตามที่ NT ร้องขอ เพราะประเด็นดังกล่าวจะไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจาก 1. คำตัดสินดังกล่าวยังถือไม่เป็นที่สิ้นสุดทางกฎหมาย ทาง NT สามารถยื่นศาลปกครองกลางเพื่อคัดค้านคำตัดสินดังกล่าวได้ภายใน 90 วัน และ 2. ที่ผ่านมา ADVANC ไม่เคยตั้งสำรองความเสียหายในข้อพิพาทดังกล่าว ดังนั้นหากท้ายที่สุดชนะคดีก็จะไม่มีผลต่อประมาณการกำไรของเราและตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ยังคงมุมมองเชิงปัจจัยพื้นฐานเหมือนเดิม โมเมนตัมกำไรปกติ ไตรมาส 4/65 คาดจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากไตรมาก่อนหน้าตามอานิสงส์ High Seasonal ธุรกิจการท่องเที่ยว ผสานกับรายได้จากกลุ่มลูกค้า 5G ที่จะมีบทบาทมากขึ้นจากปัจจุบันที่ทำได้ตามเป้าที่ 5.5 ล้านรายแล้ว ซึ่ง 12% ของลูกค้ารวม เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงคาดเห็นรายได้บริการมือถือจะกลับมาโตจากไตรมาสก่อนอีกครั้ง ช่วยชดเชยการรับรู้ต้นทุนค่าไฟขึ้นเต็มไตรมาส ดังนั้นคงคาดกำไรปกติทั้งปีนี้ที่ 2.65 หมื่นล้านบาท อ่อนตัว 2% ก่อนจะฟื้นตัว 6% ในปี 2566 เป็น 2.81 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายวิจัยคงแนะนำ ‘ซื้อลงทุน’ ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 252 บาท ทั้งนี้ โดยเชื่อว่าราคาหุ้น ADVANC ที่อ่อนตัวมาช่วงที่ผ่านมาได้ซึมซับปัจจัยลบของดีล ADVANC ซื้อ TTTBB และ JASIF ไปบ้างแล้ว และราคาหุ้นต่ำกว่าช่วงวันก่อนประกาศดีลดังกล่าว ในวันที่ 4 กรกฎาคม ปีนี้ราว 6%
ส่วนระยะยาวยังคงมองบวกต่อ ADVANC ตามทิศทางการแข่งขันราคาของกลุ่มนี้ที่จะสมเหตุสมผลขึ้นหลังเกิดควบบริษัท DTAC และ TRUE อีกทั้งคาดเห็นผลประโยชน์จาก New S-Curve มากขึ้น ทั้งธุรกิจบรอดแบรนด์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติซื้อกิจการกับ กสทช. แล้ว, ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร
นอกจากนี้มีโอกาสเกิด Upside สูงหากมีการตัดสินใจทำ Asset Monetization จากโครงข่ายเสาและสายสัญญาณที่เป็นเจ้าของอยู่ ในขณะเดียวกันยังคงให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอ 3% ต่อปี