งาน “Corruption Disruptors: Empowering AI to Fight Corruption” จัดขึ้นโดยสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับ THE STANDARD โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางและกรอบคิดในการใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อยกระดับการตรวจสอบและต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม
Ms. Elodie Bestal ผู้จัดการอาวุโสในแผนกต่อต้านการทุจริตขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ฉายภาพรวมถึงแนวโน้มการทุจริตทั่วโลกและแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยี
แนวโน้มการทุจริตของโลก (Global Corruption Trends)
- การทุจริตมีความซับซ้อนมากขึ้นและมีรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้น
- เทคโนโลยีสามารถเอื้อให้เกิดการปกปิดและซ่อนเร้นการทุจริต และยังเพิ่มความเร็วของกิจกรรมที่ทุจริตด้วย
- มีการประเมินว่ามีเพียง 1% ของกระแสเงินที่ผิดกฎหมายและรายได้จากอาชญากรรมเท่านั้นที่ถูกสกัดกั้น อายัด และนำกลับคืนมาได้สำเร็จ
- รูปแบบใหม่ของการทุจริตที่เอื้อโดยเทคโนโลยีประกอบด้วย:
- การใช้ AI สร้างเอกลักษณ์ปลอม เพื่อเข้าถึงเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
- การใช้สกุลเงินคริปโต (Cryptocurrencies) เพื่อวัตถุประสงค์ทางอาชญากรรม โดยประมาณ 23% ของธุรกรรมคริปโตมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน หรือการค้าสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลยังตามไม่ทันรูปแบบใหม่ๆ เหล่านี้
เทรนด์โลกใช้ AI หยุดวงจรทุจริต
- เกาหลีใต้ (KONEPS): KONEPS เป็นแพลตฟอร์มอี-โปรเคียวเมนต์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันการทุจริตระหว่างสถาบันภาครัฐและซัพพลายเออร์ โดยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่ใช้กระดาษ ณ เดือนมกราคม 2023 ระบบนี้เชื่อมต่อกับระบบภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงมหาดไทย สถาบันการเงิน และสมาคมธุรกิจ ทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถยื่นประมูลงานภาครัฐได้อย่างราบรื่นผ่านแพลตฟอร์มเดียว KONEPS เจเนอเรชันถัดไปได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ รวมถึงเครื่องมือวางแผนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกด้านการปฏิบัติงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับหน่วยงานที่ทำสัญญา ทำให้การวางแผนสัญญาง่ายขึ้น และอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนการประมูลสำหรับบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะ SMEs
- บราซิล (LabContas): แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสำนักงานตรวจสอบบัญชีของบราซิล เป็นคลังข้อมูลส่วนกลางสำหรับสัญญาภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต มีเครื่องมืออัตโนมัติ เช่น ALICE ที่ทำการตรวจสอบการประมูลทุกวันเพื่อแจ้งความผิดปกติ และ EOL ที่ช่วยระบุข้อผิดพลาดในการตรวจสอบบัญชี
- สหราชอาณาจักร (Serious Fraud Office – SFO): SFO ซึ่งเป็นหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของสหราชอาณาจักร ได้ใช้โมเดลพยากรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและช่วยให้นักสืบระบุความผิดปกติหรือการจ่ายเงินที่น่าสงสัย แพลตฟอร์ม “Opentext Axcelerate EDOC” ของพวกเขาใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงและการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในการตรวจสอบเอกสารทางกฎหมายได้มากกว่า 100,000 ฉบับต่อวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม Ms. Elodie ทิ้งท้ายว่า การใช้ AI จะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อยึดมั่นในหลักการสำคัญ เช่น การให้ความสำคัญกับประชาชน ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการมีข้อมูลที่มีคุณภาพสูงให้AIสามารถนำไปทำงานต่อได้เป็นสิ่งสำคัญ