เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (6 ตุลาคม) บมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS ได้รายงานกำไรสุทธิ 2QFY63 (รอบผลประกอบการมิถุนายนถึงสิงหาคม 2563) ที่ 966 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และเพิ่มขึ้น 20% QoQ โดยค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลง 34% QoQ แต่ทรงตัว YoY เพราะบริษัทได้เร่งตั้งสำรองไว้ก่อนแล้วใน 1QFY63
ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 7% YoY และลดลง 6% QoQ เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แคบลง 107 bps QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลลง 3-5% และสินเชื่อบัตรเครดิตลง 2% ด้าน NPL เพิ่มขึ้น 17 bps QoQ สู่ระดับ 7.88% ขณะที่อัตราการตั้งสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (LLR Coverage) ลดลงสู่ระดับ 351% จาก 359% ใน 1QFY63
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (7 ตุลาคม) ราคาหุ้น AEONTS ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น 6.69% DoD สู่ระดับ 127.50 บาท พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่คึกคัก (ข้อมูลราคาล่าสุดวันที่ 7 ตุลาคม 2563 เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่าสาเหตุที่ราคาหุ้น AEONTS ปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้เกิดจากการรายงานผลประกอบการ 2QFY63 ที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ต่ำกว่าคาดได้สร้างเซอร์ไพรส์ต่อตลาด และช่วยลดความกังวลด้านการตั้งสำรองที่สูงขึ้นในอนาคตได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับแนวโน้ม 2HY63 SCBS คาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอย่างมากใน 3QFY63 โดยมีสาเหตุมาจากผลกระทบเต็มไตรมาสจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตลง ด้าน NPL มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นใน 2HFY63 เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง แต่การตั้งสำรองจะลดลงเพราะบริษัทได้มีการเร่งตั้งสำรองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% YoY ใน 2HFY63 ซึ่งเกิดจากปัจจัยฤดูกาล
มุมมองระยะยาว:
ในระยะยาว AEONTS ยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ อัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน รวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้นจากธนาคารออมสินที่เสนอสินเชื่อแบบใหม่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการกลุ่มนอนแบงก์ นอกจากนี้ยังต้องติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งธุรกิจนอนแบงก์ของธนาคารออมสิน
