แม้หลายคนจะประสบความสำเร็จในการรักษาสิวจนสิวได้หายไปแล้ว แต่สิ่งที่สิวฝากไว้ให้คือรอยแผลเป็นที่กลายเป็นปัญหาใหม่ ทำให้ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง รอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้มีทั้งลักษณะที่เป็นรอยแดงหรือเป็นรอยคล้ายรอยกระ บางคนเป็นหลุมสิว ซึ่งการรักษาอาจยากและใช้เวลานานกว่ารอยแผลจากสิวทั่วไป ต่อไปนี้คือวิธีรักษารอยสิวอย่างได้ผลที่อยากแชร์ให้ทุกคนที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ได้ลองนำไปปฏิบัติเพื่อเรียกคืนผิวหน้าสวยใสให้กลับมาดังเดิม
ทาครีมเพื่อลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
รอยแดงและรอยดำจากสิวที่หายไปแล้ว ควรดูแลรอยเหล่านี้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการลดรอยแผลเป็น ทั้งรอยแดง รอยดำ และจุดด่างดำบนใบหน้า โดยพิจารณาจากส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี อาร์บูติน โคจิก เป็นต้น
เราแนะนำ Tomei Facial Moisturizer เพราะเป็นครีมบำรุงที่ตอบโจทย์คนเป็นสิวครบ นอกเหนือจากการช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้กลับมาแข็งแรง คุมความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้กระจ่างใสแล้ว ยังมีทีเด็ดอยู่ที่คุณสมบัติในการลดรอยแผลเป็น รอยแดง รอยดำจากสิวได้เป็นอย่างดี แถมยังมีสารยับยั้งเชื้อสิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย แต่การรักษารอยสิวไม่ควรใจร้อน เพราะรอยแผลเป็นบางอย่างก็ทิ้งรอยไว้นานเป็นเดือนเป็นปี
การลอกผิวด้วยกรดผลไม้
การลอกผิวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ลดรอยจากสิวได้ โดยมีวิธีการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ AHA หรือกรดผลไม้ กรดซาลิไซลิกก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ใช้ดูแลรอยสิวได้ผลดี ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดเหล่านี้ควรใช้ในระดับความเข้มข้นน้อยๆ จะช่วยให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิว พอเซลล์หลุดออกไป ร่างกายก็จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จึงถือเป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนรอยแดงและรอยดำจากสิวได้ดี แต่ก็เหมาะกับรอยแผลที่มีลักษณะตื้นเท่านั้น
ลดรอยดำและรอยแดงด้วยไอพีแอล
หลายคนเลือกจะเดินเข้าไปในคลินิกผิวพรรณเพื่อเข้ารับการรักษารอยแดงและรอยดำจากสิวด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย วิธีที่คนไทยคุ้นเคยก็เช่นการรักษารอยต่างๆ ด้วยเครื่องไอพีแอล (Intense Pulse Light) ซึ่งเป็นการทำงานของแสงที่มีความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420-1,200 มม. ข้อดีคือใช้รักษาปัญหาผิวได้ครอบคลุม ช่วยลดรอยดำ รอยดำ และจุดด่างดำจากสิว หรือฝ้า กระ และรูขุมขนอย่างเห็นผล แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าการทาครีม
รักษารอยสิวด้วยการฉายแสง
การรักษาด้วยการฉายแสงเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยมากขึ้น เนื่องจากคลินิกผิวพรรณและความงามเริ่มนำมาใช้รักษาปัญหาผิวของคนไข้ที่มีปัญหาสิวและริ้วรอยที่ตามมา โดยจะทำงานโดยการฉายแสงลงสู่ผิวเพื่อทำการปรับสมดุลของเคมีในเซลล์ให้เข้าสู่ภาวะปกติ ผลที่ได้คือช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี มีการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ เลือดก็ไหลเวียนดี ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาจะพิจารณาเลือกแสงความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์