วันนี้ (31 มีนาคม) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เอกชัย หงส์กังวาน, บุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, สุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) และผู้ต้องหาอีก 2 คน รวม 5 คน เดินทางมารายงานตัวตามที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 นัดสั่งคดี กรณีที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดุสิต มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องในความผิดฐานประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 กับข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวาย มาตรา 215 และกีดขวางการจราจร กรณีชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จพระราชินี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563
ต่อมา พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาและคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง 16-20 ปี โดยอัยการนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาล และจำเลยทั้งหมดจะต้องดำเนินการขอยื่นประกันตัว โดยศาลได้สอบคำให้การจำเลย โดยจำเลยทั้ง 5 คนให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้คดีในชั้นศาล
ล่าสุด ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวทั้ง 5 คน โดยไม่มีเงื่อนไข วงเงินประกันผู้ต้องหา 3 คน คือบุญเกื้อหนุนและผู้ต้องหาอีก 2 คน ศาลตีวงเงินคนละ 2 แสนบาท ขณะที่เอกชัยและสุรนาถศาลตีวงเงินประกันคนละ 3 แสนบาท พร้อมนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 26 เมษายน เวลา 09.00 น.
“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ศาลอาญาให้ประกันตัวเราในวันนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ที่ดี แต่เป็นที่แน่นอนว่าการต่อสู้ของพวกเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เรายังต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาอยู่ เพื่อที่จะต่อสู้กับคำกล่าวหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเรายังคงยืนยันเช่นเดิมว่ามันไม่เป็นธรรม และไม่ได้มองถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันนั้นด้วย และนั่นเป็นสิ่งที่เราอยากจะยืนยันกับประชาชนทุกคนในประเทศนี้ว่า อย่างไรก็ตามแต่ ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ได้ เราจะอยู่ตรงนี้แน่นอน ไม่หนีไปไหน เพราะพาสปอร์ตหมดอายุแล้ว เรายืนยันในความบริสุทธิ์ของเราเหมือนเดิม และจะยืนหยัดต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป” บุญเกื้อหนุนกล่าว