*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*
‘เมื่อนักดับเพลิงต้องมาทำภารกิจตามล่าหาฆาตกรต่อเนื่องภายใน 24 ชั่วโมง’
ประโยคข้างบนคือเรื่องย่อฉบับรวบรัดของ A Superior Day ซีรีส์ระทึกขวัญที่ถูกดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อดังจากนักเขียนเจ้าของผลงาน Sweet Home และการันตีความเข้มข้นในเวอร์ชันซีรีส์ด้วยฝีมือการเขียนบทของ อีจีฮยอน ผู้เขียนบท Taxi Driver ซีรีส์ล้างแค้นสุดระทึกที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเมื่อปีที่ผ่านมา
A Superior Day เป็นซีรีส์ขนาดสั้นความยาวเพียง 8 ตอน ที่นำเราไปพบกับคดีฆาตกรรมปริศนาซึ่งมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพวาดจากเลือด มากไปกว่านั้นซีรีส์เรื่องนี้กำลังค่อยๆ นำผู้ชมเข้าไปสำรวจจิตใจด้านมืดของมนุษย์อย่างที่เราคาดไม่ถึง
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2018 เมื่อ อีโฮชอล (จินกู) นักดับเพลิงคนหนึ่งได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในย่านจุงมยอน แต่กลับบังเอิญพบเห็นเหตุฆาตกรรมในอพาร์ตเมนต์โดยไม่ตั้งใจ
ในตอนนั้นฆาตกรที่สวมเสื้อฮู้ดปิดบังใบหน้า พุ่งตรงออกมาจากห้องและใช้มีดแทงดวงตาของเขาก่อนหลบหนีไป โดยที่ภายในห้องมีศพของหญิงสาวถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ และด้านหลังปรากฏเป็นภาพวาดปริศนาซึ่งถูกวาดขึ้นมาด้วยเลือดของเหยื่อเอง
แม้หลังจากรักษาตัวได้ไม่นานโฮชอลจะสามารถกลับมามองเห็นได้ปกติอีกครั้ง แต่การเป็นพยานเพียงคนเดียวที่เผชิญหน้ากับฆาตกรก็ทำให้ ชเวจองฮเย (อิมฮวายอง) ภรรยาของเขาซึ่งเป็นตำรวจที่ดูแลคดีนี้เกิดความกังวล
“ถ้าฆาตกรรู้ว่ามีพยาน มันจะคิดว่าคุณเป็นภัยกับตัวเอง ถ้ามันรู้สึกถูกคุกคามแม้แต่นิด มันจะกำจัดคุณ”
สุดท้ายทั้งสองจึงเลือกที่จะให้ปากคำกับตำรวจอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้ฆาตกรรู้ถึงตัวตนของโฮชอล แต่แล้ววันหนึ่งก็มีนักข่าวบุกเข้ามายังโรงพยาบาลและถ่ายภาพของโฮชอลไปลงข่าว พร้อมเขียนเนื้อหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริงว่าโฮชอลมองเห็นใบหน้าของคนร้าย แม้ว่าแท้จริงแล้วในวันเกิดเหตุเขาจะถูกจู่โจมจนแทบมองไม่เห็นคนร้ายเลยก็ตาม
ข่าวที่ออกไปในครั้งนั้นทำให้ฆาตกรรู้ตัวพยานที่บังเอิญมาพบเห็นเหตุการณ์ เขาจึงเฝ้าจับตามองโฮชอลอยู่ห่างๆ และรอวันที่จะกำจัดทิ้ง หากโฮชอลเอ่ยปากพูดถึงตัวตนของฆาตกรขึ้นมา
แค่ฉากเล็กๆ เพียงไม่กี่นาทีในตอนต้นของซีรีส์ กำลังสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมที่สนใจเพียงผลประโยชน์ของตนเอง รวมทั้งจรรยาบรรณของสื่อที่กำลังหายไป สุดท้ายการจ้องแต่จะทำข่าวโดยไม่นึกถึงความปลอดภัยของแหล่งข่าว ก็ทำให้พยานอย่างโฮชอลกลายเป็น ‘เหยื่อ’ ที่ถูกฆาตกรต่อเนื่องจับตามอง
หลังจากเหตุการณ์นั้นซีรีส์ก็ดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปถึง 2 ปี โฮชอลและครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง โดยที่ข่าวของฆาตกรต่อเนื่องค่อยๆ เงียบหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทุกสำนัก
จนกระทั่งเหตุฆาตกรรมศพรายที่ 4 เกิดขึ้นอีกครั้งในปารีสวิลล์ อพาร์ตเมนต์ที่โฮชอลอาศัยอยู่ การกลับมาของ ‘นักฆ่าริชเกิร์ล’ ทำให้ความทรงจำที่ค่อยๆ เลือนหายไปของโฮชอลกลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง
เขาพยายามที่จะไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนร้ายและปกป้อง อีซูอา (โชยูฮา) ลูกสาวเพียงคนเดียว แต่แล้วในเช้าวันเกิดของซูอา เธอกลับถูกลักพาตัวไปจากสถานีรถไฟใต้ดินอย่างไร้ร่องรอย
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา โฮชอลก็ได้รับสายจากชายปริศนาที่เอ่ยถามถึงคดีฆาตกรรมเมื่อสองปีก่อน และยื่นเงื่อนไขในการปล่อยตัวซูอาว่า โฮชอลจะต้องตามหา ‘ฆาตกรริชเกิร์ล’ ให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
ภารกิจสืบหาฆาตกรตัวจริงจึงเริ่มขึ้นโดยหลักฐานเดียวที่โฮชอลมีคือความทรงจำจากการเผชิญหน้ากันเมื่อ 2 ปีก่อน และภาพปริศนาที่ถูกวาดด้วยเลือดของเหยื่อในทุกๆ คดีเท่านั้น
ความโดดเด่นที่ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่อีพีแรกของซีรีส์เรื่องนี้คือ การสร้างความรู้สึกร่วมได้ตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการคอยทิ้งเบาะแสบางอย่างให้เราได้ขบคิดตามไปกับตัวละคร รวมทั้งค่อยๆ เผยให้เราเห็นผู้ต้องสงสัยที่น่าจะมีโอกาสเป็นฆาตกรในคดีนี้
ควอนชีอู (อีวอนกึน) ชายหนุ่มผู้เป็นทั้งเพื่อนบ้านและครูสอนศิลปะให้กับซูอา เขาเป็นคนอัธยาศัยดีและสุภาพ แต่ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม ชีอูกลับซ่อนนิสัยแปลกประหลาดไว้หลายอย่าง
ชีอูเป็นคนที่มีความลุ่มหลงในศิลปะมากเป็นพิเศษ ครั้งหนึ่งที่กำลังสอนศิลปะให้กับซูอา เขาได้เอ่ยถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งว่า
“เธอรู้ไหม เฉดแดงที่ดีที่สุดสำหรับระบายริมฝีปากมนุษย์คือสีแบบไหน”
ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองจนเลือดสีแดงไหลออกมา แล้วจึงใช้นิ้วป้ายเลือดลงบนภาพวาดหญิงสาวตรงหน้า นอกจากนี้คำพูดและพฤติกรรมเล็กน้อยอย่างการซื้อพู่กันใหม่บ่อยๆ รวมทั้งการแอบเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ ก็ทำให้ชีอูยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
แต่กลับกัน ฉากที่ฆาตกรปรากฏตัวหรือกำลังฆาตกรรมเหยื่อ ซีรีส์กลับเลือกที่จะให้เขาปกปิดใบหน้าไว้ภายใต้เสื้อฮู้ดหรือใช้มุมกล้องที่มองไม่เห็นใบหน้าของฆาตกรเสมอ เป็นการเล่าเรื่องที่คลายปมบางอย่างให้ผู้ชมมีโอกาสได้คิดตาม แต่ก็ไม่เปิดเผยทั้งหมดจนเดาทางได้ง่ายเกินไป นับเป็นการดำเนินเรื่องอย่างชาญฉลาดที่ทำให้เราอยากติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ
นอกจากความลึกลับที่สามารถทำได้ดีในแบบฉบับซีรีส์สืบสวนสอบสวน A Superior Day ยังออกแบบฉากไล่ล่าและต่อสู้ออกมาได้ระทึก น่าติดตาม นอกจากนี้ซีรีส์ยังสามารถสอดแทรกประเด็นสังคมอื่นๆ ไว้ได้อย่างแยบยลเช่นเดียวกัน
ทั้งประเด็นของซูอาที่โดนเพื่อนกลั่นแกล้งในโรงเรียน, คิมดงอู (คิมโดฮยอน) อดีตนักโทษที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรโดยไม่มีแม้แต่หลักฐาน ไปจนถึงการสะท้อนภาพสังคมที่ผู้คนนึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง อย่างลูกบ้านส่วนใหญ่ในปารีสวิลล์ที่ไม่ได้รู้สึกเห็นใจเหยื่อเท่ากับรู้สึกผิดหวังที่เหตุฆาตกรรมทำให้ราคาอพาร์ตเมนต์กำลังตก
A Superior Day ดำเนินมาจนถึงเอพิโสดที่ 3 และยังคงเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เวลาของโฮชอลเหลือน้อยลงทุกที เขาจึงต้องเร่งค้นหาร่องรอยความทรงจำที่เหลืออยู่ รวมทั้งหลักฐานทั้งหมดเท่าที่มี เพื่อตามหาฆาตกรต่อเนื่องและช่วยเหลือลูกสาวของตัวเองจากชายปริศนาให้ได้
ร่วมลุ้นเอาใจช่วยภารกิจของโฮชอลและไขคดีฆาตกรรมปริศนาครั้งนี้ไปพร้อมๆ กันใน A Sperior Day ทุกวันจันทร์ เวลา 11.30 น. ทาง VIU