วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลช่วงค่ำวันนี้ โดยระบุว่า ไม่ได้มีประเด็นอะไรมากมาย จะเป็นการกินข้าวร่วมกันครั้งแรก หลังจากที่ แพทองธาร ชินวัตร เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ส่วนการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยเรื่องความเห็นต่างเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ สรวงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้คุยกันได้อยู่แล้ว เพราะตอนนี้เราอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาลแบบพรรคร่วมผสมหลายพรรคการเมือง หลายพรรคมีจุดยืนและมีความประสงค์ที่แตกต่างกัน แต่ในการทำงานร่วมกันไม่ได้มีปัญหาอะไร อาจพูดคุยกันบ้างในเรื่องของการทำงานในอนาคต แต่ในเรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องของการทำงานการเมือง โดยภาพรวมไม่น่ามีปัญหาอะไร คาดว่าเป็นการพูดคุยถึงการทำงานในอนาคตมากกว่า
ทั้งนี้ แน่นอนว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเป็นนโยบายของรัฐบาล และเข้าใจว่าน่าจะทันในสมัยรัฐบาลนี้ แม้จะยังมีเรื่องกังวลอยู่ว่าจะนำคำถามประชามติไปพ่วงรวมกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศในต้นปีหน้าไม่ทัน แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ การทำประชามติก็คงต้องทำแยกออกมา ซึ่งต้องใช้งบประมาณพอสมควร ส่วนเรื่องข้อกำหนดต่างๆ ที่ยังมีประเด็นกันอยู่ในเรื่องของเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยกันในกรรมาธิการร่วมของ 2 สภา
“อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีขั้นตอนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือมาตรการและกระบวนการต่างๆ มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้แน่นอน” สรวงศ์ยืนยัน
สำหรับความคืบหน้าเรื่องคดีตากใบ สรวงศ์ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย พรรคเพื่อไทยไม่ได้ละเลย ให้ทีมกฎหมายติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่ามีอะไรสามารถดูแลและช่วยเหลือเยียวยาความรู้สึกคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมยอมรับว่า วันนี้อาจพูดคุยเรื่องคดีตากใบในพรรค
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อขยายอายุความของคดีตากใบ แต่ในข้อเท็จจริงจากการประเมินเรื่องช่วงเวลาแล้วคงไม่น่าจะทัน ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมขอโทษอย่างจริงใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นคนละรัฐบาลกัน
“ในส่วนของพรรคเองมีมาตรการอย่างที่เรียนให้ทราบไป โดย พล.อ. พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคและเป็นผู้ต้องหาในคดี พยายามพูดคุยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบ จนกระทั่ง พล.อ. พิศาล ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเป็นการลาออกจาก สส. ไปด้วย ส่วนเรื่องคดีความให้ท่านกลับเข้ามาต่อสู้คดีเอง” สรวงศ์กล่าว
