×

ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน ฮีโร่ผู้รักษาประตูไอซ์แลนด์ที่มีอาชีพเสริมเป็นผู้กำกับโฆษณา

17.06.2018
  • LOADING...

เชื่อว่าน้อยนักจะทราบข้อเท็จจริงที่ว่ายอดมือกาวทีมชาติไอซ์แลนด์วัย 34 ปี ‘ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน (Hannes Þór Halldórsson)’ ไม่ได้มีความสามารถแค่ลีลาการเซฟพาดโผนในโลกลูกหนังเท่านั้น แต่เจ้าตัวยังมีดีกรีเป็นถึง ‘ผู้กำกับ’ ฝีมือดี!

 

เมื่อวานนี้ (เสาร์ 16 มิ.ย.) ทีมชาติไอซ์แลนด์ลงแข่งกับทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นนัดแรกในกลุ่ม D โดยตลอดทั้งเกมน้องใหม่ประจำศึกฟุตบอลโลก 2018 รวมใจกันเล่นได้อย่างสมานสามัคคีจนได้ใจแฟนบอลทั่วโลก (ยกเว้นแฟนบอลอาร์เจนไตน์ไว้หนึ่งทีม) และคนที่โดดเด่นมากๆ จนได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแมตช์จากฟีฟ่า และถูกสื่อหลายสำนักยกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำวันก็หนีไม่พ้น ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติไอซ์แลนด์

 

ไม่เพียงแค่โชว์หนึบปัดป้องเซฟลูกยากๆ ไปถึง 6 ลูก เจ้าตัวยังเซฟจุดโทษของผู้เล่นระดับเวิลด์คลาส ‘ลิโอเนล เมสซี’ ช่วยให้ทีมเก็บ 1 แต้มแรกสุดล้ำค่าของทัวร์นาเมนต์ได้สำเร็จอีกด้วย

 

ที่น่าสนใจกว่าการเซฟแต้มแรกให้ทีม คือชีวิตส่วนตัวของมือกาววัย 34 ปีผู้นี้ที่ยามว่างเว้นจากการลงเล่นฟุตบอล ฮัลล์ดอร์สสันมีอาชีพเสริมเป็น ‘ผู้กำกับ’ ไม่ว่าจะโฆษณา, มิวสิกวิดีโอ,​ สปอตโฆษณากีฬา, สารคดีไปจนถึงภาพยนตร์ เขาทำได้ทั้งหมด และไม่ใช่แค่ ‘ทำได้ดี’ เท่านั้น แต่ผลงานของเขายังเข้าขั้น ‘ยอดเยี่ยม’ เลยก็ว่าได้

 

ก่อนเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมชาติไอซ์แลนด์ ฮัลล์ดอร์สสันได้ฝากผลงานกำกับโฆษณาโปรโมตทีมฟุตบอลไอซ์แลนด์ของตนกับแบรนด์น้ำอัดลมโคคา-โคล่าในชื่อ ‘SAMAN með Coca-Cola’ ซึ่งจากที่เราได้ดูด้วยตัวเองแล้วแม้จะไม่ได้เกิดที่ไอซ์แลนด์หรือเชียร์ทีมของพวกเขามาก่อน แต่โฆษณาชิ้นนี้ก็ปลุกอารมณ์ร่วมให้ฮึกเหิมได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว!

 

 

ผู้รักษาประตูวัย 34 ปีค้นพบความสามารถด้านการกำกับของตัวเองตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล โดยรับหน้าที่กำกับมิวสิกวิดีโอให้กับวงดนตรีผู้หญิง ‘Nylon’ แบบฟรีๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขายังได้รับโอกาสกำกับงานเรื่อยๆ รวมถึงวิดีโอประกอบของนักร้องไอซ์แลนด์ที่ลงแข่งในรายการประกวดร้องเพลง Eurovision 2012

 

The Guardian ได้เผยแพร่เรื่องราวของผู้กำกับและผู้รักษาประตูคนนี้ โดยบอกว่าในช่วงวัย 20 ปี ฮัลล์ดอร์สสันเกือบตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว เพราะเขาค่อนข้างรักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจมากกว่า ทั้งยังไม่เคยได้รับการฝึกสอนการเป็นผู้รักษาประตูอย่างจริงๆ จังๆ แถมยังเคยถูกปฏิเสธไม่ให้ลงเล่นในทีมท้องถิ่นของไอซ์แลนด์ ดิวิชัน 3 มาแล้ว

 

วิธีง่ายๆ ที่ฮัลล์ดอร์สสันฝึกฝนตัวเอง คือการเตะบอลอัดกำแพงให้สุดแรง แล้วพยายามเซฟลูกบอลที่กระเด้งกลับมาให้ได้ แต่ในที่สุดความพยายามก็ไม่บังเกิดผล โดยตลอดช่วงปี 2002-2004 ที่เขาสังกัดอยู่กับ Leiknir Reykjavík ทีมในลีกไอซ์แลนด์ กลับไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเท่าที่ควร

 

ปี 2004 ฮัลล์ดอร์สสันได้รับการติดต่อจากสโมสร Numi ทีมในลีกต่ำกว่า ให้ไปซ้อมร่วมกับทีม แต่เพราะยังทำได้ไม่ดีพอ (ยอมรับด้วยตัวเองด้วย) สโมสรจึงตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับเขา หลังจากนั้นจึงถูกปล่อยตัวกลับมายัง Leiknir Reykjavík อีกครั้ง ก่อนจะได้รับโอกาสลงเล่นนัดสุดท้ายของฤดูกาลกับทีม

 

และนั่นก็คือนัดสุดท้ายของเขาและสโมสรด้วยเช่นกัน…เพราะเล่นได้แย่ เกิดข้อผิดพลาดจนทำให้สโมสรพลาดโอกาสเลื่อนชั้น

 

ต้องขอบคุณความผิดพลาดในวันนั้นที่ทำให้ฮัลล์ดอร์สสันคิดได้ จนตัดสินใจไปปรึกษากับคุณพ่อถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้รักษาประตูจากทีมชาติไอซ์แลนด์ที่ลงเล่นในลีกอาชีพ และเคยย้อนเล่าช่วงเวลานั้นไว้ว่า “ผมเคยอยู่ในจุดที่ไม่มีใครรู้จักผม หรือผมเองจะสามารถเล่นฟุตบอลได้ สิ่งเดียวที่ผมเชื่อคือผมทำมันได้ และวิธีที่ผมจะทำมันได้ก็อยู่ในมือของผมแล้ว”

 

แม้จะไต่ไปไม่ถึงระดับเดียวกันกับผู้รักษาประตูเวิลด์คลาสคนอื่นๆ ในช่วงวัยไล่เลี่ยกันอย่าง จิอันลุยจิ บุฟฟอน, อิเกร์ กาซิยาส หรือปีเตอร์ เช็ก แต่ฮัลล์ดอร์สสันก็ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะนายทวารมือหนึ่งทีมชาติไอซ์แลนด์ที่ได้ลงสนามรับใช้ชาติครั้งแรกในรอบคัดเลือกยูโร 2012 กับทีมชาติไซปรัส และสามารถเก็บคลีนชีตได้ หลังผู้รักษาประตูทั้ง 2 คนที่เหลือบาดเจ็บและติดโทษแบน

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมาฮัลล์ดอร์สสันก็ได้รับความไว้วางใจมาตลอด โดยมาแจ้งเกิดพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทีมชาติไอซ์แลนด์ทุกคนในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยูโร 2016 พาทีมชนะทีมชาติอังกฤษทะลุไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แถมยังเซฟจุดโทษของอเล็กซานเดอร์ ดราโกวิช นักเตะทีมชาติออสเตรียในรอบแบ่งกลุ่มได้อีกด้วย จนมาถึงในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในชีวิต (และครั้งแรกของประเทศ) ที่ประเดิมเซฟจุดโทษของเมสซีได้อย่างน่าชื่นชม

เขาได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังจบเกมไว้ว่า “สำหรับผมในฐานะผู้รักษาประตูที่ได้เล่นให้กับไอซ์แลนด์ในฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก การได้ลงเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก และการดวลจุดโทษคือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ มันคือฝันที่เป็นจริงที่ผมเซฟมันได้

 

“ผมศึกษาการยิงลูกโทษของเขา (เมสซี) นับครั้งไม่ถ้วน และยังย้อนไปดูพฤติกรรมของตัวผมเองในการดวลจุดโทษครั้งที่ผ่านๆ มา เพื่อคิดในมุมกลับว่าถ้าเป็นคนที่ต้องยิงจุดโทษ พวกเขาจะคิดอย่างไรยามเผชิญหน้ากับผม ผมรู้สึกดีจริงๆ ที่ผลมันออกมาเป็นแบบนี้”

 

ไม่ใช่แค่ฟุตบอลเท่านั้นที่ฮัลล์ดอร์สสันพยายามพัฒนาฝึกฝนตัวเองทุกวัน แต่เขายังพัฒนาทักษะด้านการกำกับของตัวเองด้วยการชวนเพื่อนๆ ในทีมชาติไอซ์แลนด์ชมภาพยนตร์สัก 2-3 เรื่องก่อนจะลงแข่งในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย

 

จนถึงตอนนี้แม้จะอยู่ในช่วงปลายอาชีพการค้าแข้งแล้ว แต่ผู้รักษาประตูวัย 34 ปีจากชาติเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 3.3 แสนคน กำลังถูกพูดถึงและได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก และในที่สุดความมุมานะและการไม่หยุดพัฒนาตัวเองก็จะนำพาให้เขาประสบความสำเร็จในวันใดวันหนึ่ง ไม่ว่าจะในฐานะ ‘ผู้รักษาประตู’ หรือ ‘ผู้กำกับ’ ก็ตาม

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising