สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์โดยหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากไทย แคนาดา และสหรัฐฯ ว่าการลักลอบนำกัญชาเข้าสหราชอาณาจักรมีโทษจำคุก หลังมีปริมาณการลักลอบจากประเทศต้นทางทั้งสามแห่งเพิ่มสูงขึ้น
โดยในปี 2567 ทางการสหราชอาณาจักรสามารถจับกุมตัวผู้ที่ลักลอบนำเข้ากัญชามาทางเครื่องบินโดยสารได้ถึง 378 ราย และตรวจยึดกัญชาได้ถึง 15 ตัน มากกว่าจำนวนในปี 2566 ถึงสามเท่า ซึ่งมีการตรวจยึดกัญชาได้ 5 ตัน และจับกุมผู้คน 136 ราย และมากกว่าปี 2565 ที่ตรวจยึดได้เพียง 2 ตัน
ขณะที่ในปีที่ผ่านมา มีผู้ที่ถูกจับกุม 71 ครั้ง ที่มาจากท่าอากาศยานในสหรัฐฯ, 24 ครั้งที่มาจากไทย และ 24 ครั้งจากแคนาดา
โดยในปี 2567 กว่าครึ่งของการจับกุมเป็นกัญชาที่มาจากไทยจำนวน 184 กรณี, จากแคนาดา 75 กรณี และจากสหรัฐฯ 47 กรณี ซึ่งผู้ลักลอบหลายคนได้รับคำแนะนำจากผู้ชักชวนว่าหากถูกจับได้จะแค่ถูกปรับเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการลักลอบนำเข้ากัญชามายังสหราชอาณาจักรมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 14 ปี
ขณะที่การจับกุมส่วนใหญ่สามารถตรวจยึดกัญชาได้ถึง 15-40 กิโลกรัม จากผู้โดยสารที่ซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดไว้ใต้ท้องเครื่อง
โดยหนึ่งในการตรวจค้นจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดที่ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์คือกรณีของ Fernando Mayans Fuster ชายสัญชาติสเปน อายุ 51 ปี ซึ่งถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังพยายามลักลอบนำกัญชาปริมาณ 158 กิโลกรัมซุกซ่อนมาในกระเป๋า 8 ใบ เดินทางจากนครลอสแอนเจลิสของสหรัฐอเมริกา
อีกกรณีคือผู้โดยสารสัญชาติอังกฤษ 11 คน ที่ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานเมืองเบอร์มิงแฮม หลังพยายามลักลอบนำเข้ากัญชาปริมาณ 510 กิโลกรัมมาในกระเป๋าเดินทาง 28 ใบ ก่อนเดินทางถึงสหราชอาณาจักร ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มนี้เดินทางจากประเทศไทย และเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล
อ้างอิง: British Embassy Bangkok