วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง หลังนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ออกเป็นกฎหมาย โดยจะมีโอกาสเสนอร่าง พ.ร.บ. จาก สส. หรือ ครม. ว่าขอพิจารณาในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก่อน เพราะเหมือนจะมีร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ในสมัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เตรียมยื่น
ส่วนร่างของพรรคภูมิใจไทยก็ยื่นเข้าสภาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 และจากที่ได้ฟัง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แนะนำว่าอยากให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคใดก็ได้ยื่นเข้าไป จากนั้นนำไปประกบรวมกันเพื่อพิจารณา โดยเราเอาบัญชานายกรัฐมนตรีเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในการออก พ.ร.บ. จึงต้องหาแนวทางออกกฎหมาย ซึ่งจะลบล้างเรื่องการนำกัญชา กัญชง กลับไปเป็นยาเสพติด เพราะการออก พ.ร.บ. คือการไม่ใช้ช่องทางของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากยึดตามคำบัญชานายกรัฐมนตรี บอร์ด ป.ป.ส. ไม่ต้องประชุมเพื่อนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแล้วใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ถ้าเป็นแนวทางนายกรัฐมนตรีก็ควรเป็นเช่นนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รายละเอียดในร่าง พ.ร.บ. จะเหมือนข้อเสนอที่เข้าสภาชุดที่แล้วที่ภูมิใจไทยเสนอหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า แก่นของกฎหมายก็คงเหมือนเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวว่า มีการมองเป็นชัยชนะของพรรคภูมิใจไทย อนุทินรีบส่ายหน้า ก่อนกล่าวว่า “เป็นชัยชนะของประชาชนเท่านั้น เรายึดถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ขอให้เลิกคิดเสียที เพราะทำงานด้วยกันจะไปแข่งกันทำไม ซึ่งทุกคนยอมรับกันโดยตัวเลขคือ พรรคที่หนึ่งเป็นแกนนำ 71 เสียง จะไปแข่งอะไรพรรคเกือบ 150 เสียง หรือเอาแบบคณิตศาสตร์ง่ายๆ คือทำงานร่วมกันไปด้วยการยอมรับกัน เพราะทุกคนทำงานหนัก และยืนยันว่าไม่เคยให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้ รวมถึงภายในสถานศึกษาและสตรีมีครรภ์ โดยเนื้อหาเขียนไว้ครบถ้วนชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การออก พ.ร.บ. จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกหักหลังเหมือนรัฐบาลก่อน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า “ผมมั่นใจในนายกรัฐมนตรีของผม นายกรัฐมนตรีลงมาสั่งการขนาดนี้แล้ว และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนกว่า 314 เสียง ซึ่งไม่เหมือนรัฐบาลที่แล้วที่มีเสียงสนับสนุน 253 เสียง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากกฎหมายผ่านสภาล่าง (สส.) และสภาบน (สว.) ไม่น่าจะมีปัญหาใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า หากเป็นกฎหมายที่ดีก็ไม่น่าจะ
มีปัญหาอะไร และเรื่องนี้ต้องไปถาม สว. ซึ่งตนก็ได้ฝากแสดงความยินดีกับ สว. ทั้งหมดผ่านสื่อไปแล้ว
