The Rivalries: การดวลกันของ 5 คู่ปรับ ที่จะจุดไฟให้ ปารีส 2024

ขึ้นชื่อว่าเกมกีฬา ที่สุดของความรู้สึกคือช่วงเวลาของการตัดสินกันในสนามแข่งขัน และยิ่งถ้าเป็นการเผชิญหน้ากันของคู่ปรับที่เก่งกาจด้วยแล้ว นี่แหละคือสุดยอดของเกมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024

ก่อนที่โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ อยากให้ลองรู้จักกับคู่ปรับทั้ง 5 ที่จะทำให้เปลวเพลิงในหัวใจของทุกคนลุกโชนตามไปด้วย

จากวิ่งมาราธอนถึงพุ่งแหลน มีใครบ้างไปทำความรู้จักกัน เผื่อจะได้ติดตามในปารีส 2024!

มาราธอน: เคเนนิซา เบเกเล vs. เอเลียด คิปโชเก

ย้อนกลับไปในปี 2003 เคเนนิซา เบเกเล นักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติเอธิโอเปีย ดวลกับคู่ปรับอย่าง เอเลียด คิปโชเก ในการแข่งขันวิ่ง 5,000 เมตร ในรายการกรีฑาชิงแชมป์โลก

ผลปรากฏว่า คิปโชเกเบียดเข้าเส้นชัยได้ในช่วง 200 เมตรสุดท้าย ส่วนเบเกเลหมดแรงตกไปอยู่ที่ 3 แทน

นั่นคือจุดเริ่มต้นของความเป็นคู่แข่งกันระหว่างทั้งสองคน คิปโชเกได้เหรียญทองโอลิมปิกวิ่งมาราธอนมา 2 สมัย ส่วนเบเกเลได้เหรียญทองโอลิมปิกในการวิ่ง 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร รวมกัน 3 เหรียญ เพียงแต่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันในสนามอีกเลยนับตั้งแต่จบรายการลอนดอนมาราธอนเมื่อปี 2008

ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ เบเกเลที่ไม่ผ่านการคัดตัวในโอลิมปิกเกมส์เมื่อปี 2016 ที่ประเทศบราซิล และโอลิมปิกเกมส์ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2021 ได้โอกาสที่จะวัดกับคู่แข่งแห่งชีวิตอย่างคิปโชเกอีกครั้ง

‘ปารีส 2024’ จะเป็นการดวลกันครั้งสุดท้าย บนความหวังเหรียญทองที่ 3 ของคิปโชเก หรือเหรียญทองมาราธอนแรกของเบเกเล

กระโดดสูง: จานมาร์โก แทมเบรี vs. มูตาซ เอสซา บาร์ชิม

ความทรงจำที่สวยงามที่สุดของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันกระโดดสูงรอบสุดท้าย

ในตอนนั้น จานมาร์โก แทมเบรี นักกระโดดสูงทีมชาติอิตาลี กับ มูตาซ เอสซา บาร์ชิม สามารถกระโดดได้เท่ากันที่ 2.37 เมตร

ทางออกตามกฎกติกาเพื่อหาผู้ชนะคือ จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่กระโดดผ่าน เพียงแต่ดูเหมือนว่าทั้งสองจะกระโดดให้สูงกว่านี้ไม่ได้แล้ว

สุดท้ายทั้งคู่เลือกทางออกที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อแทมเบรีหันไปถามกรรมการว่า “แบบนี้เราแชร์เหรียญกันได้ไหมสองคน” ซึ่งตามกติกาก็ดันมีระบุเอาไว้ด้วยว่าสามารถครองเหรียญทองร่วมกันได้ เท่านั้นเองแทมเบรีก็กระโดดตัวลอยก่อนสวมกอดและจับมือกับบาร์ชิม กลายเป็นภาพสุดอบอุ่นหัวใจ

แต่ในปารีส 2024 ทั้งคู่ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง และแน่นอนว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นผู้ชนะคนเดียวดูเหมือนกัน

วิ่ง 100 เมตรหญิง: ชาคาร์รี ริชาร์ดสัน vs. เชลลี-แอนน์ เฟรเซอร์-ไพรซ์

การวิ่ง 100 เมตรคือไฮไลต์ของกรีฑาในโอลิมปิกเกมส์เสมอ ซึ่งคราวนี้ไม่ได้เดือดแค่วิ่ง 100 เมตรชาย (ที่รอดูกันว่า โนอาห์ ไลส์ จะเป็น The Flash คนใหม่จริงๆ ได้ไหม) แต่เดือดมาถึงวิ่ง 100 เมตรหญิงด้วย

ชาคาร์รี ริชาร์ดสัน ดาวเด่นทีมชาติสหรัฐอเมริกา จะลงแข่งโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของเธอ และมาในฐานะแชมป์โลกด้วย หลังได้เหรียญทองกรีฑาชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2023 ซึ่งแน่นอนว่าความหวังเต็มเปี่ยม แต่คู่แข่งอย่าง เชลลี-แอนน์ เฟรเซอร์-ไพรซ์ ลมกรดเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 8 เหรียญ คือคู่แข่งที่น่าเกรงขามเสมอ

ระหว่างความสดของสาวอเมริกันกับความเก๋าของสาวจาเมกา

กะพริบตาไม่ได้บอกเลย หรือถ้าเผลอขยี้ตาแป๊บเดียวจบแล้ว!

ว่ายน้ำ 400 เมตรหญิง: เคธี เลเดกกี vs. อาริอาร์น ติตมุส vs. ซัมเมอร์ แมคอินทอช

ราชินีสระ เคธี เลเดกกี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 6 เหรียญ มีงานใหญ่รออยู่ในปารีส 2024 เมื่อต้องเจอกับคู่แข่งที่ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มาถึง 2 คนที่เก่งและมีลุ้นพอๆ กัน

คนแรกคือ อาริอาร์น ติตมุส เงือกสาวจากออสเตรเลีย และ ซัมเมอร์ แมคอินทอช จากแคนาดา ซึ่งคนแรกนั้นเป็นเจ้าของสถิติโลกคนปัจจุบันด้วย เพียงแต่คนหลังเป็นเงือกสาวน้อยมหัศจรรย์วัยแค่ 17 ปีที่มีแววดีน่าลุ้นจะได้เหรียญทองกับเขาด้วย

งานนี้รับประกันว่าว่ายกันสระเดือดอย่างแน่นอน

พุ่งแหลนชาย: นีราจ โชปรา vs. อาร์ชาด นาดีม

ในอินเดีย นีราจ โชปรา คือนักกีฬาที่เป็นซูเปอร์สตาร์ดังกว่าดาราในประเทศอินเดีย ซึ่งก็มาจากผลงานสร้างชื่อในการคว้าเหรียญทองแบบ ‘ปรากฏการณ์’ ในการแข่งขันโตเกียว 2020 เมื่อ 3 ปีก่อน

หลังจากนั้นฝีมือนอกจากจะไม่ตกแล้ว โชปรายังเหมือนจะโหดขึ้นด้วย เมื่อทุบสถิติโลกได้ในการแข่งกรีฑาชิงแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว โดยพุ่งได้ 88.17 เมตร

แต่ถึงอย่างนั้นสถิตินี้ก็ยังไม่ดีเท่ากับสถิติ 90 เมตรที่ อาร์ชาด นาดีม นักพุ่งแหลนทีมชาติปากีสถาน เคยทำได้ในการแข่งขันกีฬาคอมมอนเวลท์เกมส์เมื่อปี 2022

พุ่งแหลนอาจเป็นกีฬาที่เหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อถึงเวลาต้องดวลกันของสองคนนี้ รับประกันว่าลุ้นเอาใจช่วยกันไม่แพ้กีฬาอื่นแน่นอน

อ้างอิง: