อายุที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้แค่กล้ามเนื้อลีบหรือสายตาฝ้าฟาง แต่ยังทำให้เราสูญเสีย อารมณ์ขัน ไปเรื่อยๆ ซึ่งนักวิชาการเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘หน้าผาอารมณ์ขัน’ (Humor Cliff) ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานของเรา
จากผลสำรวจของ Gallup ในปี 2013 พบว่า คนส่วนใหญ่มักจะเริ่มหัวเราะและยิ้มน้อยลงตั้งแต่อายุ 23 ปี Jennifer Aaker และ Naomi Bagdonas ผู้เขียนหนังสือ Humor, Seriously ตั้งคำถามว่า ‘ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น’
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะงานที่เราทำ เมื่อเราโตขึ้น เข้าสู่โลกการทำงาน และกลายเป็น ‘คนสำคัญ’ เราจึงแลกเสียงหัวเราะกับชุดสูทและเนกไท จนในที่สุดก็สูญเสียความร่าเริงไปกับเรื่องเครียดๆ ในที่ทำงาน
จากการสำรวจพบว่า หลายคนกลัวที่จะแสดงอารมณ์ขันในที่ทำงาน เพราะกลัวว่าจะดูไม่เป็นมืออาชีพ หรือกลัวว่ามุกตลกจะแป้ก แต่ในความเป็นจริง อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้เราดูเป็นธรรมชาติ เป็นมนุษย์มากขึ้น และยังช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้บริหารส่วนใหญ่ยังชอบพนักงานที่มีอารมณ์ขัน และเชื่อว่าพวกเขาทำงานได้ดีกว่าด้วย
อารมณ์ขันไม่ได้หมายถึงการเป็นนักแสดงตลกในห้องประชุม แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดรับอารมณ์ขันของทุกคน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
ที่สำคัญ อารมณ์ขันไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ การหัวเราะเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตของเรา และยังช่วยให้คนรอบข้างรู้สึกดีไปด้วย
การมีอารมณ์ขันยังส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานอีกด้วย
งานวิจัยพบว่า ผู้นำเสนอที่มีอารมณ์ขันถูกมองว่ามีความสามารถและความมั่นใจมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าทีมมากกว่าคนที่ไม่มีอารมณ์ขัน นอกจากนี้ อารมณ์ขันยังช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานอีกด้วย
แต่แน่นอนว่าการใช้อารมณ์ขันต้องระมัดระวัง ผู้เขียนแนะนำให้ประเมินทุกมุกตลกว่ามันบอกความจริงที่โหดร้ายเกินไปหรือไม่ แตะประเด็นที่เจ็บปวดเกินไปหรือไม่ และมีระยะห่างจากความเจ็บปวดมากพอที่จะหัวเราะได้หรือไม่
ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกหน้าผาอารมณ์ขัน ลองทำ Humor Audit โดยจดบันทึกว่าคุณหัวเราะเมื่อไร อะไรทำให้คุณหัวเราะ และเมื่อไรที่คุณทำให้คนอื่นหัวเราะ ซึ่งจะช่วยฝึกให้คุณมองเห็นโอกาสที่จะใช้อารมณ์ขันได้ดีขึ้น
“อย่าปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในหน้าผาอารมณ์ขัน เพียงเพราะคิดว่าความเป็นมืออาชีพต้องจริงจัง” Aaker กล่าว “จงนำอารมณ์ขันมาสู่ที่ทำงานและแสดงตัวตนของคุณออกมาให้มากขึ้น…ก่อนที่จะสายเกินไป”
ภาพ: PAstudio / Shutterstock
อ้างอิง: