วันนี้ (28 พฤษภาคม) มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะนักกฎหมายอิสระ ทำหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. 2544 ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อน (MOU 2544) ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังพบไม่ได้มีการพิจารณาผ่านสภาว่า ยืนยันว่า MOU ไม่ได้มีบทบังคับอะไรหรือเป็นสนธิสัญญา
ปัจจุบันเรายังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย และประเด็นดังกล่าวก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด MOU 2544 ไม่ได้ส่งผลต่อเขตแดนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งนี้ เป็นเรื่องของศาลในการรับคำร้องของไพบูลย์
มาริษกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการ เพราะต้องพิจารณาให้ชัดเจนเรื่องผลประโยชน์อยู่ตรงไหน และที่สำคัญตนกำลังหารือกันเป็นการภายในกระทรวงการต่างประเทศเพื่อเคลียร์ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยอยากให้กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงและให้ข้อมูลกับสาธารณชนให้ได้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสน
ส่วนที่กระทรวงกลาโหมเคยทำหนังสือมายังรัฐบาลให้แบ่งผลประโยชน์ทับซ้อนควบคู่กับการปักปันเขตแดน ขอคุยรายละเอียดในกระทรวงการต่างประเทศก่อน เพราะตนก็ต้องดูทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และต้องการให้ทุกคนเห็นชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ทางกัมพูชาสร้างสันเขื่อนลงทะเลอ่าวไทย กระทรวงการต่างประเทศต้องทำหนังสือประท้วงไปอีกครั้งหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้เคยดำเนินการไปแล้วเมื่อปี 2564 มาริษกล่าวว่า เรื่องนี้สามารถพูดคุยกันได้ และตนมีแผนที่จะไปเยือนกัมพูชาเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศดีมาก เราต้องดูเวลาว่าควรเป็นช่วงใด ซึ่งในกรอบของอาเซียน ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศ อยากเน้นให้ได้สบายใจว่าประเทศไทยจะมีบทบาทนั้นในเรื่องของการช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เป็นผู้ประสานประโยชน์ให้กับทุกกลุ่มทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในเวทีทวิภาคีเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงเวทีพหุภาคีด้วย
ส่วนจะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาขอร้องให้รื้อสันเขื่อนดังกล่าวหรือไม่ มาริษกล่าวว่า “ขอดูระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะเรื่องความสัมพันธ์ไม่มีปัญหา เป็นเพื่อนกันไม่ใช่ว่าจะไปขอเขาอย่างเดียว ก็ต้องดูว่าเรามีอะไรที่จะไปแลกเปลี่ยนเขาได้”
เมื่อถามว่าคนไทยไม่สบายใจเพราะกัมพูชาสร้างสันเขื่อนโดยยึดหลักเขตที่ 73 ซึ่งกินพื้นที่เกาะกูด จังหวัดตราด มาริษกล่าวว่าตนเข้าใจ