THE STANDARD พูดคุยกับ หมอเบน หรือ พญ.นิติกาญจน์ เปี่ยมธนาโรจน์ ผู้ก่อตั้ง Arte House Clinic ที่ติดท็อป 3 คลินิกที่มียอดฉีดปากสูงที่สุดในประเทศ เบื้องหลังชื่อเสียงด้านการปรับรูปปาก ปั้นปากสวยของหมอเบน เกิดจากหัวใจที่ไม่หยุดเรียนรู้ และความเชื่อที่ว่า การเสริมความงามคืองานศิลปะ แพทย์ที่ดีจึงต้องมีความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์
บริการอย่างจริงใจ รักษาอย่างมีศิลปะ
เส้นทางความชำนาญเรื่องการสร้างริมฝีปากสวยเริ่มต้นจากการจบการศึกษาจากสถาบันโรคผิวหนัง สั่งสมประสบการณ์ในโลกของการแพทย์และความงามมากว่า 15 ปี โดยหมอเบนเริ่มก่อตั้งคลินิกของตัวเองเมื่อปี 2553
จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ Arte House Clinic และกลับมาหาซ้ำๆ เกิดจากการให้บริการอย่างใส่ใจ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุดคือ ความรู้ความเข้าใจในฝีมือการออกแบบใบหน้าอย่างมีศิลปะของหมอเบน
“การเลือกหมอก็เหมือนเลือกช่างแต่งหน้า โดยเฉพาะในเรื่องของการปั้นปากเพื่อปรับเปลี่ยนลุคให้กับคนไข้ หมอแต่ละคนจะมีลายเซ็นเป็นของตัวเอง ยิ่งหมอที่มีประสบการณ์มาก ผ่านมาหลายเคส จะยิ่งมีความรู้และความเข้าใจในองค์ประกอบของใบหน้าคนไข้แต่ละคนมากยิ่งขึ้น”
เรื่องความสวยต้องไม่หยุดเรียนรู้
เท่านั้นยังไม่พอ หมอเบนยังเสริมด้วยว่า ต่อให้เก่งแล้วยังต้องไม่หยุดเรียนรู้ โดยหมอเบนเลือกใช้วิธีสั่งสมประสบการณ์ บวกกับการบินไปดูงานต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ที่วิทยาการด้านความงามก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
“เราไปดูงานต่างประเทศเพื่อที่จะได้เข้าใจว่าโลกก้าวไปถึงไหนแล้ว และเก็บเกี่ยวกลับมาประยุกต์ใช้กับคนไทย”
ในอดีตการปรับรูปปากยังต้องพึ่งพาการศัลยกรรมเป็นส่วนมาก แต่ปัจจุบันมีสารเติมเต็มที่สามารถใช้ปั้นปากเพื่อเปลี่ยนรูป ปรับลุคให้เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ อยากเปลี่ยนทรงเมื่อไรก็ทำได้สะดวกสบายมากขึ้น
“การเกิดขึ้นของสารเติมเต็มได้ปลดล็อกข้อจำกัดของการแก้ปัญหาริมฝีปากไปอย่างมาก คนไข้สามารถเลือกทรงได้หลากหลายขึ้น เปลี่ยนทรงได้บ่อย ไม่จำเป็นต้องอยู่กับทรงเดิมไปตลอดชีวิต ดังนั้นการดูเทรนด์ใหม่ๆ และการฝึกฝนเทคนิคในการปั้นปากให้เข้ากับองค์ประกอบของใบหน้าแต่ละคน จึงเป็นสิ่งที่หมอเน้นย้ำและให้ความสำคัญมากๆ ในหลายปีที่ผ่านมา”
This is my look. รอยยิ้มสดใส เริ่มจากความมั่นใจ
เมื่อถามถึงความกังวลใจเกี่ยวกับริมฝีปากของคนไข้ส่วนใหญ่ หมอเบนเล่าว่า คนไข้มักเดินเข้ามาปรึกษาเรื่องปากคว่ำที่ทำให้ดูเหมือนเป็นคนหน้าบึ้ง ปากตกร่องจากปัญหาริมฝีปากแห้ง หรือปากบางเกินไป อยากให้ดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
“เดี๋ยวนี้หลายๆ เคสใช้สารเติมเต็มเพียงอย่างเดียวก็สามารถช่วยได้แล้ว แต่บางเคสยังต้องใช้การศัลยกรรมควบคู่กับการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อให้ดูสวยสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งในการปั้นปากให้สวยเราจะวิเคราะห์ดูว่าคนไข้เหมาะกับปากทรงไหน คุยกับเขาเพื่อบาลานซ์ความพอดี เพื่อให้รูปปากออกมาได้อย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติ และเข้ากับองค์ประกอบอื่นๆ บนใบหน้าของเขามากที่สุด”
“ความสวยต้องเริ่มจากความมั่นใจ เมื่อเขามีความมั่นใจเขาจะสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น วันนี้อยากได้ทรงเซ็กซี่ อีกวันอยากเปลี่ยนเป็นทรงปากที่ดูน่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋ม ก็ทำได้ง่ายๆ ขอเพียงแค่ใส่ใจในการเลือกหมอที่มีความรู้และความเข้าใจถึงศิลปะบนใบหน้าอย่างแท้จริง”
หมอเบนทิ้งท้ายถึงใครที่อยากอัปลุคให้ดูดีด้วยการปรับรูปปากไว้ว่า “การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปปากที่ดีนั้น ไม่ใช่สวยแค่ตอนอยู่นิ่งๆ เท่านั้น แต่ตอนขยับ พูด หรือแสดงสีหน้า ปากก็ต้องดูสวย มีความเป็นธรรมชาติ และไม่แข็งด้วย”
3 เช็กลิสต์สร้างรอยยิ้มทัชใจ
1. ดูแลและทะนุถนอมริมฝีปากอยู่เสมอ
“ดื่มน้ำเยอะๆ ทาลิปบาล์มทุกวัน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการป้องกันแสงแดดจะยิ่งดี นอกจากนี้ยังมีอีกเทคนิคง่ายๆ ในการทำให้ปากดูชุ่มชื้นตลอดเวลาคือ ใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ บริเวณริมฝีปาก เพื่อกระตุ้นและผลัดเซลล์ผิวใหม่”
2. เลือกแพทย์หรือคลินิกที่มีความรู้ลึกเรื่องริมฝีปาก
“แพทย์ต้องมีความรู้และความเข้าใจในการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม คลินิกต้องมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจเกิดจากการสั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ไม่มีประวัติด่างพร้อย และสำคัญที่สุดคือ แพทย์ต้องมีจรรยาบรรณในเรื่องการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมาใช้”
3. ใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี
“ด้วยความนิยมในการฉีดปากและการปั้นปาก ทำให้ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย อยากปากสวยได้อย่างใจต้องการ อย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและมั่นใจได้
“ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์คู่ใจที่หมอเลือกใช้กับคนไข้ในคลินิกบ่อยๆ ก็คือ Restylane Kysse สารเติมเต็มในกลุ่ม Hyaluronic Acid ที่ออกแบบขึ้นเพื่อการใช้สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นใน 3 ด้านด้วยกันคือ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ทำให้ปั้นทรงสวยได้ง่าย และสุดท้ายคือ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและน่ามอง”
