วานนี้ (20 เมษายน) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ตนเองจะถูกปรับชื่อออกจากตำแหน่งว่า ตนได้เห็นข่าวที่ออกมาแล้ว ซึ่งตนไม่มีความคิดเห็นใดๆ กับเรื่องนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ คนที่มีกองเชียร์เยอะ เวลาเกิดสถานการณ์เช่นนี้ต่างคนต่างก็เชียร์กัน ส่วนตนเป็นคนไม่มีกองเชียร์ เพราะกองเชียร์ของตนอยู่นอกวงการ ซึ่งตนไม่เคยได้รับสัญญาณอะไรและไม่รู้ว่าข่าวออกมาจากทางไหน เพราะไม่เคยมีใครส่งสัญญาณ ไม่ว่าจะสัญญาณทางอ้อมหรือสัญญาณทางตรง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่ออกมาเช่นนี้จะทำให้กระทบต่อการทำงานหรือไม่ ชัยกล่าวว่า ไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน จะกระทบกับอะไร ไม่มีความรู้สึกแม้แต่นิดเดียว ยังทำงานตามเดิม มีแต่ข่าวลือที่ออกมาหลายสาย “ลือว่าผมจะไปทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง ลือว่าคนโน้นจะแทนผมบ้าง เป็นการลือกันเพื่อช่วยให้สื่อมวลชนได้ขายข่าว”
ก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนักทั้งมติชนและไทยโพสต์รายงานตรงกันว่า รัฐบาลเตรียมจะยกเครื่องการทำงานของทีมโฆษกรัฐบาลใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้นโยบายการทำงานกับ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึง คารม พลพรกลาง, เกณิกา อุ่นจิตร์ และ รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สามารถเปิดกว้างชี้แจงข้อมูลของแต่ละกระทรวง หรือตอบโต้ในประเด็นที่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้ โดยไม่ต้องยึดติดว่าต้องเป็นรัฐมนตรีจากพรรคที่ตัวเองสังกัดเท่านั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แกนนำรัฐบาลกำลังมองหาผู้ที่มีความเหมาะสมให้เข้ามาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลคนใหม่แทนชัย โดยก่อนหน้านี้มีการมองไปที่ตัวของ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมีชื่อของ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม และอดีต สส. กทม. พรรคเพื่อไทย
อ้างอิง:
