วันนี้ (13 เมษายน) เวลา 15.00 น. อรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของคันดินกั้นน้ำบริเวณประตูน้ำท่าถั่ว ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่พบว่ามีการทรุดตัว ทำให้น้ำเค็มทะลักเข้าสู่คลองสายลอง สร้างผลกระทบต่อการผลิตน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งและสัตว์น้ำ ซึ่งเรื่องนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานในการติดตามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งแนวทางการเยียวยาเพื่อลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่เกิดขึ้น พบว่ามีแรงดันน้ำทำให้เกิดคันดินทรุดตัว และมีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปก่อนหน้านี้ โดยการใช้บิ๊กแบ็กขนาด 2 ตัน จำนวน 1,000 ถุง เพื่อแก้ไขปัญหาอุดรอยรั่ว แต่ด้วยแรงดันจากน้ำทะเลหนุน ทำให้ถุงบิ๊กแบ็กแตกเพราะไม่สามารถรับแรงดันได้ น้ำเค็มจึงทะลักเข้าสู่คลองอีกครั้ง ซึ่งกรมชลประทานได้มีการรายงานถึงแนวทางการแก้ไขอย่างเร่งด่วนภายในวันนี้ (13 เมษายน) ก่อนช่วงน้ำทะเลหนุนในเวลา 17.00-18.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและผู้รับเหมาจำเป็นต้องเร่งมือในการเสริมคันดินให้แข็งแรงและสูงเพียงพอ ที่จะสามารถรับปริมาณน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงนี้ได้ พร้อมแผนดำเนินการสร้างแผ่นเหล็กชีทไพล์เพื่อเสริมความแข็งแรง ที่จะสามารถรับแรงดันน้ำให้ถาวรมากขึ้น
นอกจากนี้ สำหรับแผนการเยียวยาประชาชนและพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชน โดยการจัดเตรียมหาน้ำสำรองเพื่อป้อนไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการใช้น้ำในทุกส่วนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค โดยเฉพาะป้อนเข้าระบบการผลิตน้ำประปา และที่สำคัญต้องเพียงพอต่อภาคการเกษตรของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ โดยการส่งน้ำจากคลองรังสิตเหนือและคลองรังสิตใต้ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำจืดในพื้นที่คลองท่าถั่วเพื่อลดความเค็มของน้ำ ควบคู่ไปกับการสูบน้ำเค็มออกจากประตูระบายน้ำท่าถั่ว ซึ่งคาดว่าจะสูบได้ประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีการประเมินว่า น้ำเค็มที่ทะลักเข้าสู่คลองบริเวณดังกล่าวมีมากถึง 3 ล้านลูกบาศก์เมตร