วันนี้ (22 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมพิธีปฐมนิเทศหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาเรียนก็รู้สึกดี ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง ก็สมัครมาสักพักแล้ว รอวันเปิด เลยตื่นเต้นนิดหนึ่ง
แพทองธารกล่าวถึงการตัดสินใจเรียนหลักสูตรนี้ว่า จริงๆ เรื่อง วปอ. มีมานานแล้ว พอเปิดเป็น วปอ. รุ่นเด็กลงมา อายุเข้าเกณฑ์ เลยรู้สึกว่าถ้ามาเรียนก็จะได้รู้ในสิ่งที่เรายังไม่ทราบอีกเยอะ และคิดว่าการที่จะได้เข้ามาเรียนตรงนี้น่าจะมีประโยชน์ในการใช้ในเส้นทางการเมืองแน่นอน
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลายๆ อย่างไม่ใช่แค่กองทัพอย่างเดียว ก็ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แต่เพื่อจะให้บ้านเมืองสงบสุข เราต้องหันหน้าเข้ามาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่เป็นของระดับประเทศ เราก็คุยกันในสภาที่มี สส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเข้ามาคุยร่วมกัน ก็จะเป็นสิ่งที่ชัดเจน และมีตัวแทนของประชาชนได้มากที่สุด แต่คิดว่าต้องดูเรื่องเวลาเรียนด้วย เพราะเปลี่ยนมาเรียนเป็นวันจันทร์กับวันอังคาร ซึ่งตนมีประชุม สส. ที่พรรคในวันอังคาร เพราะงานที่พรรคก็สำคัญ
เมื่อถามว่าตอนที่มาสอบสัมภาษณ์เป็นคำถามเกี่ยวกับอะไร แพทองธารกล่าวว่า สัมภาษณ์เรื่องว่ามาเรียนจะมีการหาคอนเน็กชันหรือไม่ ตนก็ตอบไปตรงๆ ว่าการที่คนมาเรียนไม่ใช่แค่คอร์สนี้ แต่ในทุกคอร์ส ทุกคนอยากได้คอนเน็กชัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนก็จะได้มาระดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไปเรียนเมืองนอกก็ได้อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเพื่อนต่างชาติที่ตนก็ยังมีอยู่เลย แล้วการกลับมาก็เป็นช่วงอายุที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการที่คุณจะหาคอนเน็กชันหรือไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราได้เปิดกว้าง เรียนรู้จากคนหลายคน
เมื่อถามว่าการมาหาคอนเน็กชันในครั้งนี้หรือหลักสูตรดังกล่าว จะถูกโจมตีว่าทำเพื่อเรื่องส่วนตัว แพทองธารกล่าวว่า ตนว่าทุกคอร์สทุกคนก็มาเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และประโยชน์เพื่อใดๆ ของคนที่เรารักและแคร์ ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกว่ามาแล้วจะได้ผลประโยชน์ ยังไม่ได้ไปโกงกินใคร เรามาแล้วได้ประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเรามาแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อะไรเลยจากการที่มาแล้วจะมาทำไม เพราะฉะนั้นมาก็ต้องได้ประโยชน์ และไม่เป็นไร และหวังว่าคอร์สนี้ทุกคนจะได้ประโยชน์จากอะไรก็ตามในที่เรียน
จากนั้น พล.อ.อ. ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวต้อนรับนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ว่าถือเป็นหลักสูตรรุ่นที่ 1 ซึ่งมีที่มาที่ไปนานพอสมควร เพราะก่อนหน้านั้นเกือบจะสำเร็จ แต่ต้องล้มเลิกไป
ซึ่งวันนี้แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ แต่ขอเป็นอาจารย์กับศิษย์ สำหรับการปฐมนิเทศวันนี้เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่าในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน 6 เดือน เราจะทำอะไร และจะได้อะไรกัน พวกเราคือความคาดหวังและสังคมมองดูทุกท่าน ในกระบวนการที่ได้คัดเลือกเข้ามา ต้องถือว่าพวกเรามีมาตรฐานสูงมากของประเทศ ขอแสดงความยินดีกับพวกเราทุกคน
อุ๊งอิ๊งยอมรับ สส. เพื่อไทย ดูแข่งฟุตบอลช่วงอภิปรายงบไม่เหมาะสม
แพทองธารยังกล่าวถึงกรณี สส. พรรคเพื่อไทย เปิดชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเกาหลีใต้ ในช่วงที่สภามีการอภิปรายงบประมาณปี 2567 โดยชมผ่านเว็บเถื่อน ซึ่งเว็บดังกล่าวมีโฆษณาของเว็บพนันด้วยว่า ต้องตักเตือนกันเรื่องที่ดูบอลระหว่างประชุมงบประมาณ ซึ่งเป็นเวลาไม่เหมาะสม
แนะหาช่องทางให้ประชาชนดูเว็บไม่เถื่อน
แพทองธารยังได้สอบถามสื่อมวลชนว่า “ตรงนี้มีใครดูเว็บเถื่อนบ้างไหมคะ อิ๊งว่าจริงๆ ก็ต้องดูแลเรื่องนี้อีกทีด้วยค่ะ คืออิ๊งคิดว่าเว็บเถื่อนทุกคนเข้าถึง เราก็ต้องดูเว็บที่ไม่เถื่อน หรือช่องทางที่ไม่เถื่อน เราสามารถให้ประชาชนได้ดูยังไงได้บ้าง อันนี้ก็คงต้องดูแลกันต่อไป แต่…ใช่ค่ะ ไม่ควรดูในเวลานั้น อิ๊งก็จะตักเตือน”
กลับจากเชียงใหม่ทุกคนเป็นหวัด
แพทองธารกล่าวถึงการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ว่าหลังจากที่กลับจากเชียงใหม่ทุกคนเป็นไข้หวัดหมดเลย เพราะมีเรื่องฝุ่นควัน โดยลูกสาวและลูกชายก็ป่วยเป็นโควิด ซึ่งตนเองก็พยายามที่จะไม่ให้ติดโควิดตอนนี้ “เริ่มกลัวแล้วตอนนี้ สำหรับคุณพ่อก็โอเค”
มอง สว. ไม่พลาดยกปม ‘ทักษิณ’ อภิปราย
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า สว. จะมีการนำเรื่องของทักษิณมาอภิปรายในวันที่ 25 มีนาคมนี้หรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า ก็อาจจะไม่พลาด ซึ่งไม่เป็นไร ทุกเรื่องตอบได้แน่นอน
เยือนกัมพูชาดีมากๆ เผยโมเดลการเมืองคล้ายกัน
แพทองธารยังกล่าวถึงการเดินทางไปประเทศกัมพูชาว่า เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ถือเป็นการเรียนรู้กันทั้งสองฝ่าย และก็ดีมากๆ เป็นการต้อนรับที่อบอุ่น ทุกคนกลับมาก็ประทับใจ สำหรับการพบปะพูดคุยกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งถือเป็นคนเจเนอเรชันเดียวกันนั้น ตนมองว่ามีสิ่งที่คล้ายกันตั้งแต่รุ่นพ่อคือสมเด็จฮุน เซน ก็ทำพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) การไปครั้งนี้ก็ได้ความรู้ว่าประเทศเพื่อนบ้านเรามีพรรคการเมืองประมาณนี้ สามารถที่จะนำมาปรับใช้อย่างไรกับประเทศเราบ้าง ถือว่ามีประโยชน์มาก
