ราคาทองคำพุ่งขึ้นมาทำสถิติใหม่ที่เกือบ 2,200 ดอลลาร์ เรียกได้ว่าเป็นยุคทองยุคที่ 3 ของทองคำ ย้อนไปเมื่อปี 1971 ที่เป็นจุดสิ้นสุดของระบบ Gold Standard หลังจากประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯ ประกาศยุติการรับแลกเงินดอลลาร์เป็นทองคำในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อ 1 ออนซ์ อีก 10 ปีถัดมา ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากถึง 1,519%
ยุคทองครั้งถัดมาคือช่วงปี 1999-2011 ราคาทองคำวิ่งขึ้นจากต่ำกว่า 300 ดอลลาร์ ไปถึง 1,920 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับขึ้น 611% ในเวลา 12 ปี และล่าสุดคือตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน ที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นมาแล้ว 107% ตลอดช่วงเวลา 8 ปีกว่า
หากคำนวณจากราคาทองคำที่ 35 ดอลลาร์ ผ่านมา 53 ปีจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 6,000% โดยที่ยังไม่รวมผลกระทบจากเงินเฟ้อ
คำถามสำคัญคือ ยุคทองยุคที่ 3 ของทองคำที่กำลังดำเนินอยู่นี้ จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน?
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า “จุดพีคของราคาอาจบอกได้ยากว่าจะอยู่ตรงจุดไหน แต่เหตุการณ์สำคัญคือการลดดอกเบี้ยของ Fed เริ่มต้นขึ้น และเริ่มเห็นสัญญาณของจุดต่ำสุดของวงจรเศรษฐกิจขาลงในรอบนี้ นั่นอาจเป็นจุดพีคของราคาทองคำ”
หากมองย่อยลงในกราฟราคาทองคำ จะเห็นว่าการวิ่งขึ้นของทองคำรอบล่าสุดเริ่มต้นจากเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชัดเจนในการยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ Bond Yield สหรัฐฯ ผ่านจุดสูงสุดที่ 5% ทันที
“ราคาทองคำในอดีตแปรผกผันโดยตรงกับ Real Bond Yield” (Real Bond Yield คำนวณได้จาก Bond Yield หักลบด้วยเงินเฟ้อ)
ก่อนที่ราคาทองคำจะเริ่มวิ่งขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากการที่นักลงทุนแห่เข้าลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างบิทคอยน์และทองคำ ขณะเดียวกันจะเห็นว่าธนาคารกลางแต่ละประเทศต่างปรับสัดส่วนเงินทุนสำรอง หลังเล็งเห็นแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะลดลง ทำให้การถือครองเงินดอลลาร์เป็นหลักมีความจำเป็นน้อยลง
“หากดูจากวัฏจักรของการเริ่มลดดอกเบี้ยของ Fed 3 รอบล่าสุด ทองคำเป็นผู้ชนะเสมอ ไม่ว่าการลดดอกเบี้ยจะมาเร็วหรือช้ากว่าสัญญาณการเกิด Recession”
ณัฐชาตเชื่อว่า ขณะนี้ทองคำยังไม่ถึงจุดพีค เพราะยังไม่ได้สะท้อนการหดตัวของเศรษฐกิจหรือการถดถอยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับ Bond Yield ยังไม่ได้สะท้อนการ Landing ของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Soft Landing หรือ Hard Landing
“ใครที่ยังมีสัดส่วนทองคำในพอร์ตค่อนข้างน้อย ยังสามารถทยอยซื้อแบบ DCA ได้”
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต