วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางโดยอากาศยานลงจอดที่เรือหลวงอ่างทอง และได้นั่งเรือลาดตระเวนระยะใกล้ ต.998 เพื่อเดินทางไปยังเรือ Ocean Valor ของทางสหรัฐอเมริกา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล ก่อนเริ่มปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย ภายใต้การฝึก Cobra Gold 2024
จากนั้น พล.ร.อ. อะดุง ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ถือเป็นวันแรกที่กองทัพเรือและสหรัฐฯ ซึ่งร่วมปฏิบัติภารกิจที่จะเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือ จึงต้องขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ นักประดาน้ำ และกำลังพลเรือ Ocean Valor โดยจากการที่ไปสังเกตบนเรือ Ocean Valor ถึงการปฏิบัติการครั้งนี้ จึงได้เข้าใจความยากลำบาก เพราะเรือ Ocean Valor เป็นเรือเปล่า อุปกรณ์ทั้งหมดทางสหรัฐฯ นำขึ้นเครื่องบินมาจากรัฐฮาวาย มาลงเรือ Ocean Valor ที่สิงคโปร์ เพื่อนำมาช่วยปฏิบัติภารกิจ ตนรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบคุณ
นักประดาน้ำไทย-สหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติภารกิจ
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า ขณะนี้นักประดาน้ำได้ลงไปปฏิบัติภารกิจแล้วและเตรียมจะขึ้นมา โดยนักประดาน้ำคนแรกเป็นกำลังพลของกองทัพเรือสหรัฐฯ และนักประดาน้ำคนที่สองเป็นคนไทย และมีนักประดาน้ำสำรองอีก 1 คน ซึ่งก็เป็นกำลังพลของกองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นไดฟ์แรก เมื่อขึ้นมาแล้วจะพัก จากนั้นนักประดาน้ำชุดต่อไปจะเป็นนักประดาน้ำกองทัพเรือไทยเป็นตัวหลัก นักประดาน้ำสหรัฐฯ จะเป็นตัวรอง และนักประดาน้ำของไทยจะเป็นตัวสำรอง โดยจะสลับกันเช่นนี้ชุดละ 3 คน โดย 2 คนอยู่ใต้น้ำ ส่วนอีก 1 คนเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง โดยกองทัพเรือไทยส่งนักประดาน้ำปฏิบัติภารกิจนี้ 35 นาย และสหรัฐฯ 14 นาย
สำหรับระยะเวลาในการปฏิบัติงาน นักประดาน้ำจะใช้เวลา 10 นาทีในการดำลงไปถึงจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจม มีเวลาทำงาน 40-45 นาที และดำน้ำขึ้นมาอีก 10 นาที จากนั้นเข้าห้องปรับบรรยากาศกำลังดันสูง หรือ Hyperbaric Chamber อีก 1 ชั่วโมง
เตรียมนำป้ายเรือหลวงสุโขทัยขึ้นจากน้ำ
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวด้วยว่า สิ่งแรกที่เราจะนำขึ้นมาก่อนในวันนี้คือ ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตัด และนับไปอีก 5 วันนับจากนี้จะมีการถ่ายรูปเรือหลวงสุโขทัยตลอดลำและค้นหาผู้สูญหาย เพื่อมาประกอบสำนวนการสอบสวน
ส่วนวันที่ 6-19 มีนาคม 2567 จะเป็นการทำลายอาวุธและอำพันที่เป็นอันตรายของสหรัฐฯ และของไทย โดยสิ่งไหนที่นำขึ้นมาได้ก็จะนำขึ้นมา ซึ่งทางสหรัฐฯ มีเครื่องตัดเหล็กและมีเครนที่สามารถยกของขึ้นมาได้ ดังนั้นจะใช้ดุลพินิจอะไรที่นำขึ้นมาได้ก็จะนำขึ้นมา และจะนำสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจขึ้นมา เพื่อนำมาสร้างเป็นอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัย ก็จะจบภารกิจครั้งนี้ ใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 19 วัน
รอผลรอยปริหัวเรือ ยันไม่ได้เกิดจากการซ่อมบำรุง
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า กองทัพเรือขอยืนยันว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ตรงไปตรงมา และเอามาประกอบสิ่งที่ตนต้องการแถลงให้คนไทยทั้งประเทศว่าเรือหลวงสุโขทัยจมไปเพราะอะไร ซึ่งต้องชัดเจน เมื่อฟังแล้วต้องเข้าใจ คำถามทั้งหมดต้องได้รับการอธิบาย ซึ่งยอมรับว่าตนได้เห็นหมดแล้ว แต่ในขณะนั้นอยากจะนำเรือขึ้นมาให้ได้เพื่อให้เห็นกับตา ที่ระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุประมาณตี 3 น้ำเริ่มเข้ามาในตัวเรือ เข้ามาบริเวณใด ในช่วงตี 4 มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
เรามีข้อมูลหมดแล้ว แค่ต้องการนำมาเปรียบเทียบกันจากคำให้การของคนบนเรือว่าพูดตรงกันหรือไม่ ซึ่งจากการไปถ่ายรูปเรือบริเวณดังกล่าวมีรอยปริตรงหัวเรือจริง ส่วนจะเกิดจากสาเหตุอะไร ขอให้รอข้อมูล พร้อมยืนยันเสียงหนักแน่นว่า บริเวณดังกล่าวไม่ได้ปริเนื่องจากสาเหตุการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ก่อนเรือจม ผู้การเรือหลวงสุโขทัยก็ได้สั่งให้ปิดประตูเรือตามขั้นตอนเรียบร้อย ซึ่งวันนี้รูปที่ออกมาก็ตรงตามนั้นจริงๆ
หากพบร่างผู้สูญหาย พร้อมนำขึ้นมาทำพิธี
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวต่ออีกว่า ต้องขอบคุณสหรัฐฯ หากไม่ได้สหรัฐฯ ในวันนี้เรื่องคงไม่จบ เนื่องจากการประมูลกู้เรือหลวงสุโขทัย 2 ครั้งไม่สำเร็จ เพราะเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัทไม่ครบ ส่วนงบประมาณ 200 ล้านบาทที่เตรียมไว้กู้เรือนั้นจะนำคืนคลัง 90 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลนำไปช่วยเหลือประชาชน ส่วนงบประมาณอีก 110 ล้านบาทเป็นของกองทัพเรือใช้ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งจากการไปเห็นวันนี้ เอกสารมีจำนวนมากและการปฏิบัติงานเป็นไปได้ยาก โดยสหรัฐฯ มาได้จังหวะ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงไม่จบ
ผู้บัญชาการทหารเรือยังระบุด้วยว่า หากพบร่างผู้สูญหายก็จะนำขึ้นมาทันที หากเจอไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรือชิ้นส่วนมนุษย์ ก็จะนำส่งตำรวจเพื่อชันสูตรตรวจ DNA รวมทั้งกองทัพเรือจะรับเป็นเจ้าภาพพิธีศพให้กำลังพลทั้ง 5 นาย
เรือหลวงยังคงตั้งตรง
สำหรับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นใต้ทะเลนั้น ตนได้ขอพรกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ให้ช่วยคุ้มครอง และวันนี้ใต้ทะเลน้ำใสมาก เห็นภาพชัดเจน ไม่เห็นคลื่นลมที่เป็นอุปสรรค จึงขอภาวนาตลอดภารกิจนี้ขอให้คลื่นลมและสภาพอากาศเป็นใจ ซึ่งปัจจุบันเรือหลวงสุโขทัยยังมีลักษณะตั้งตรงเหมือนเดิม ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เรือเอียง แต่จะมีสัตว์น้ำเข้าไปอยู่อาศัย ส่วนน้ำมันที่อยู่ในตัวเรือ จากการได้รับรายงานในช่วงที่เรือจมเหลือไม่มาก ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
