วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ
ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
กทม. มีฝนตก 30%
ขณะที่ฝุ่นละอองในระยะนี้ ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยเวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กทม. คุณภาพอากาศดีทุกเขต
ขณะที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชันเช็คฝุ่น เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ ในกรุงเทพมหานคร พบค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
ส่วนภาพรวมทั้งประเทศพบ 35 จังหวัดเกินค่ามาตรฐาน โดยมี 9 จังหวัดที่อยู่ในระดับสีแดงที่มีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ สุโขทัย, ลำพูน, แพร่, กำแพงเพชร, ลำปาง, พิษณุโลก, เลย, อุตรดิตถ์ และน่าน
พบจุดความร้อนมากสุดที่จังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับจุดความร้อน ดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,583 จุด ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่า จุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 591 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 431 จุด พื้นที่เกษตร 244 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 178 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 133 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 187 จุด
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา 1,871 จุด ตามด้วยเมียนมา 1,233 จุด สปป.ลาว 714 จุด และเวียดนาม 558 จุด