ทุกวันนี้คุณเสพติดการใช้โทรศัพท์มือถือมากแค่ไหน แต่ละวันต้องหยิบมันออกมาจากกระเป๋าไล่เช็กข้อความแชตหรือตอบอีเมลไม่ต่ำกว่ากี่ครั้ง แล้วเวลาที่อยู่บนรถไฟฟ้าหรือระบบขนส่งสาธารณะคุณก้มหน้าดูจอเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?
ปีที่แล้วบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Flurry Analytics เคยเปิดสถิติตัวเลขท่ีน่าสนใจไว้ว่าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกาจะใช้เวลาอยู่บนสมาร์ทโฟนเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป ในจำนวนนี้แยกเป็นการใช้งานแอปพลิเคชัน 92% (50% คือการใช้แอปฯ โซเชียลมีเดีย) และท่องเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตอีก 8% ขณะที่ในแต่ละปีสัดส่วนการใช้งานสมาร์ทโฟนต่อวันก็เพิ่มต่อเนื่องกว่า 69% สะท้อนให้เห็นว่าคนเริ่มมีพฤติกรรมเสพติดการใช้งานโทรศัพท์มากขึ้นทุกวัน
มองลงไปให้ลึกกว่านั้นว่าพฤติกรรมการติดสมาร์ทโฟนเป็นอย่างไร ผลสำรวจจาก Deloitte ในปี 2016 ระบุไว้ว่าแต่ละวันผู้ใช้จะจ้องหน้าจอโทรศัพท์ไม่ต่ำกว่า 47 ครั้ง อีก 89% บอกว่าตั้งแต่ตื่นนอนคนส่วนใหญ่จะต้องคอยเช็กมือถือภายใน 1 ชั่วโมง ส่วน 81% บอกว่าภายใน 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน พวกเขาจะต้องเช็กมือถือเสมอ
ถ้าตัดเหตุผลเรื่องงานออกไป ทำไมคนเราถึงติดมือถือและต้องพกมันติดมือไว้ตลอดเวลาขนาดนั้น?
ลอว์รา ชาพอสนิก (Laura Schaposnik) และ เจมส์ อันวิน (James Unwin) สองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ในชิคาโก ได้ศึกษาในประเด็นการใช้สมาร์ทโฟนขณะเดิน ‘The Phone Walkers: A study of human dependence on inactive mobile devices’ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากกว่า 3,000 คน ก่อนเปิดเผยออกมาเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาและพบว่า
กลุ่มตัวอย่างเพศชายที่เดินตามท้องถนนจะพกโทรศัพท์ติดมือ 30% ส่วนผู้หญิงจะมากกว่าที่ 37% ที่น่าสนใจคือเมื่อทั้งคู่เดินมาด้วยกัน ตัวเลขการพกมือถือไว้ในมือกลับลดลงเหลือเพียง 18% เท่านั้น ตัวเลขเหล่านี้กำลังจะบอกอะไรเรา?
ลอว์ราและเจมส์ตั้งข้อสังเกตในประเด็นดังกล่าวก่อนให้เหตุผลที่เราต้องพกสมาร์ทโฟนไว้ในมือตลอดเวลาถึงจะไม่ได้ใช้งานไว้ 4 ข้อดังนี้
- ต้องแสตนด์บายตอบแชตคนรัก: นี่คือเหตุผลสำคัญที่สุดที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนต้องพกโทรศัพท์ไว้ในมือตลอดเวลา โดยเฉพาะข้อมูลจากงานวิจัยที่ระบุว่าคู่รักส่วนใหญ่มักใช้ระยะเวลาโดยเฉลี่ยตอบกลับแชตหากันภายใน 5 นาที
- รู้สึกวิตกกังวลเมื่ออยู่ห่างจากโทรศัพท์: นักวิจัยทั้ง 2 คนมองว่าเมื่อโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือเรา จะช่วยลดความตึงเครียดหรือความวิตกกังวลของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับตอนที่มันถูกเก็บอยู่ในกระเป๋า ซึ่งอาจจะตีความได้ว่าอาจจะเป็นสาเหตุเรื่องการตอบแชตงาน
- ช่วยให้ผู้ถือรู้สึกปลอดภัย: จากผลการวิจัยพบว่าการมีเทคโนโลยีอยู่ในมือช่วยให้ผู้ใช้วัยรุ่นรู้สึกมั่นใจมากกว่าเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขันหรือมีโอกาสเผชิญหน้ากับภยันตรายในที่สาธารณะ
- ถือไว้อวดคน มีหน้าตาในสังคม: การถือสมาร์ทโฟนหรูๆ ก็คงไม่ต่างจากการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์เนม เพราะทั้งลอว์ราและเจมส์มองว่าการหยิบสมาร์ทโฟนไว้ในมือให้คนอื่นเห็นก็เปรียบเทียบได้กับการแสดงฐานะทางสังคมไว้ดึงดูดผู้พบเห็นรูปแบบหนึ่ง
ต้องยอมรับว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันเสพติดการใช้สมาร์ทโฟนกันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งผลข้างเคียงจากการใช้งานที่มากเกินความ ‘พอดี’ อาจจะสะท้อนออกมาให้เห็นในระยะยาว แต่ก็ไม่ต้องไม่ลืมว่าการเป็น Phone Walkers หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ระหว่างเดินบนถนนไม่ว่าที่ไหนก็ตามอาจจะทำให้คุณตกเป็นเหยื่อการก่ออาชญากรรมและอุบัติเหตุได้เช่นกัน
อ้างอิง: