สรุปเหตุกราดยิงในงานพาเหรดฉลองแชมป์ซูเปอร์โบวล์ที่แคนซัส ซิตี้

เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีอัตราการกราดยิงสูงที่สุดในโลก หลังมีคนบุกกราดยิงประชาชนในช่วงท้ายขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะซูเปอร์โบวล์ของทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ในเมืองแคนซัส ซิตี้ รัฐมิสซูรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน

เรารู้อะไรแล้วบ้างจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ THE STANDARD ขอสรุปให้เข้าใจอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ตามเวลาไทย คณะนักกีฬาของทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ได้เปิดขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองชัยชนะจากการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ในเมืองแคนซัส ซิตี้ รัฐมิสซูรี

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นักกีฬาและทีมงานขึ้นรถบัส 2 ชั้น พร้อมกับโบกมือให้กับผู้คนที่มาร่วมฉลองความสำเร็จ ก่อนที่พวกเขาจะลงจากรถมาทักทายแฟนๆ ที่มารอรับเต็มสองฝั่งข้างทางแบบใกล้ชิด

ขณะที่ผู้คนกำลังสนุกสนานกับขบวนพาเหรด จู่ๆ ก็มีคนร้ายก่อเหตุกราดยิงขึ้นใกล้กับย่านยูเนียนสเตชัน (Union Station) ซึ่งเป็นปลายทางของขบวนพาเหรด ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บางคนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตนเองยังคิดว่าเป็นพลุฉลอง ก่อนที่จะมีคนตะโกนว่า “เขามีปืน! เขามีปืน!” หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีผู้คนก็เริ่มตะโกนกรีดร้อง วิ่งหนีตายกันอลหม่าน บ้างก็หมอบลงกับพื้นเพราะกลัวว่ากระสุนปืนจะยิงโดนตนเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 22 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บหลายคนเป็นเด็ก โดยผู้ที่อายุน้อยที่สุดวัยเพียง 6 ปีเท่านั้น

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ขณะภาพจากวิดีโอเผยให้เห็นด้วยว่า มีพลเมืองดีพยายามช่วยจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 1 คนส่งตำรวจ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้นยังไม่แน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนต่อไป

รายงานระบุด้วยว่า ในเวลาที่เกิดเหตุกราดยิงคาดว่ามีผู้คนมากถึง 1 ล้านคนที่มารอชมขบวนพาเหรดกันในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองแคนซัส ซิตี้ ซึ่งในตอนที่คนร้ายกราดยิงนั้น นักกีฬาทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ก็ยังอยู่บนเวทีด้วย แต่ทั้งนักกีฬา โค้ช และทีมงานทุกคนปลอดภัยดี

ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่มากกว่า 800 คนเพื่อเตรียมรับมือกับอีเวนต์ใหญ่ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วย FBI และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และวัตถุระเบิดของรัฐบาลกลาง (ATF) ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า พวกเขาสามารถเก็บกู้ปืนได้ แต่ไม่ได้รายงานว่ามีจำนวนเท่าใด พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่ให้เหตุการณ์ให้ส่งคลิปวิดีโอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม

ด้านนักกีฬาของทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์ม X เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น แพทริก มาโฮมส์ ซึ่งกล่าวว่า “ขอส่งใจให้กับเมืองแคนซัส ซิตี้” และ ทราวิส เคลซี ที่กล่าวว่า “ผมรู้สึกใจสลายต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นวันนี้ ผมขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่มาร่วมเฉลิมฉลองกับเราและได้รับผลกระทบ เมืองแคนซัส ซิตี้มีความหมายกับผมมากเหลือเกิน”

ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับรายงานเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยไบเดนกล่าวด้วยว่า สภาคองเกรสควรผ่านกฎหมายแบนการใช้อาวุธปืน “นี่คือเวลาที่เราจะต้องลงมือทำ นี่คือจุดยืนของผม และผมขอให้คนทั้งประเทศยืนหยัดไปด้วยกันกับผม”

แอนดรูว์ แมคเคบ นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของสำนักข่าว CNN ระบุว่า การควบคุมความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบในขบวนพาเหรดครั้งนี้ที่คาดว่ามีประชาชนราว 1 ล้านคนออกมาร่วมฉลองชัยชนะให้ทีมแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากงานนี้เป็นพื้นที่เปิดและไม่มีประตูหรือจุดตรวจสอบทางเข้า-ออก

นอกจากนี้เขาชี้ว่า กฎหมายควบคุมอาวุธปืนในรัฐมิสซูรีซึ่งไม่บังคับให้ประชาชนต้องได้ใบอนุญาตจากรัฐก่อนที่จะซื้อหรือเป็นเจ้าของปืน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากสามารถมีอาวุธปืน และใช้ปืนในเหตุขัดแย้งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอีกครั้งที่สะท้อนให้เห็นว่าควันปืนไม่เคยหมดไปจากสังคมอเมริกัน โดยเหตุที่เกิดครั้งนี้นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่ 48 ของสหรัฐฯ ในรอบปี 2024 ซึ่งผ่านมาแค่ 1 เดือนกับ 14 วันเท่านั้น และพบว่าการกราดยิงเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มีคนรวมกันเยอะๆ เช่น โบสถ์ โรงเรียน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล วิทยาลัย หรือแม้แต่งานปาร์ตี้ตามบ้านคน

ภาพ: David Rainey-USA TODAY Sports

อ้างอิง: