วันนี้ (11 ธันวาคม) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งให้นักเรียน เรียนหนังสืออย่างมีความสุข และให้ความสำคัญต่อคุณภาพของครูและเด็กนักเรียนทั้งประเทศ และที่สำคัญที่สุด รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย รวมไปถึงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน
คารมกล่าวว่า พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ 2567-2568 มุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ โดยเน้นให้ผู้เรียน ‘เรียนดี มีความสุข’
ใช้หลักการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจากทุกภาคตามคำกล่าว ‘จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน’ และกำหนดแนวทางให้หน่วยงานในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย คือลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง
คารมกล่าวต่อว่า เพื่อขับเคลื่อนนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ตามนโยบายของรัฐบาลและเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำแนวทาง ‘การลดการบ้าน เพิ่มการเรียนรู้’ สำหรับครูผู้สอนใช้เป็นแนวทางในการมอบหมายการบ้านแก่ผู้เรียนให้มีความเหมาะสม และใช้การบ้านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้ และประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อีกทางหนึ่ง
โดยแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต เน้นย้ำให้สถานศึกษาในกำกับ ดำเนินการให้การมอบหมายการบ้านแก่นักเรียนเป็นไปอย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างสูงสุด มุ่งหวังให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ให้การบ้านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้ และเป็นเครื่องมือประเมินเพื่อ พัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน