Nobuaki Kobayashi ผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Mt. Gox อดีตเว็บเทรดคริปโตที่เคยเป็นอันดับ 1 ของโลก ก่อนที่จะถูกแฮ็กบิทคอยน์จำนวน 850,000 BTC ได้ประกาศขยายเวลาการชำระหนี้ไปอีก 1 ปี จากก่อนหน้านี้ในวันที่ 31 ตุลาคม 2023 ไปเป็นภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2024
Mt. Gox เลื่อนการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ไปอีก 1 ปี
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Mt. Gox ระบุว่า จำเป็นต้องขยายเวลาการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ทั้งหมด จากกำหนดเวลาเดิมคือวันที่ 31 ตุลาคม 2023 ไปเป็นภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2024
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Mt. Gox เลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมากำหนดเวลาการชำระคืนถูกเปลี่ยนจากวันที่ 30 กันยายนเป็นวันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากมีการขยายกำหนดเวลาการลงทะเบียนสำหรับกระบวนการชำระคืน BTC จากวันที่ 10 มีนาคม – 6 เมษายน
ข่าวนี้อาจเป็นเรื่องดีสำหรับนักเทรดที่กังวลผลกระทบที่อาจเกิดจากการเทขาย BTC จำนวนมหาศาล เนื่องจากเจ้าหนี้ที่ได้รับบิทคอยน์คืนมาอาจต้องการขาย BTC ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้มาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในเวลานั้นสกุลเงินดิจิทัลซื้อ-ขายที่ราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์ โดยคิดเป็นผลตอบแทนมากกว่า 50 เท่าเลยทีเดียว
เหตุการณ์ Mt. Gox การถูกแฮ็กบิทคอยน์ครั้งใหญ่ที่สุด
เหตุการณ์ถูกแฮ็กในปี 2014 ของ Mt. Gox ซึ่งแฮ็กเกอร์ขโมยบิทคอยน์ไปจำนวนมากถึง 850,000 BTC ได้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับนักลงทุนคริปโตในช่วงเวลานั้น เรียกได้ว่าส่งผลต่อความเชื่อมั่นอย่างมาก และทำให้ตลาดคริปโตเข้าสู่สภาวะตลาดหมีอย่างยาวนาน
Mt. Gox เป็นเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลของโตเกียวที่ดำเนินการระหว่างปี 2010-2014 ในยุคนั้นเว็บเทรดนี้เป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งมีส่วนแบ่งประมาณ 70% ของธุรกรรมบิทคอยน์ทั่วโลกเลยทีเดียว
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แฮ็กขึ้น Mt. Gox ได้ปิดกิจการและยื่นล้มละลายในปี 2014 บิทคอยน์จำนวน 850,000 BTC ที่ถูกแฮ็กไปมีมูลค่าประมาณ 460 ล้านดอลลาร์ในตอนนั้น และสามารถกู้คืนกลับมาได้ประมาณ 200,000 BTC เท่านั้น โดยส่วนที่เหลือยังคงสูญหายไป
เมื่อปลายปี 2021 ศาลในโตเกียวได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการของ Mt. Gox ซึ่งเป็นการยุติการต่อสู้ทางกฎหมายในช่วงเวลา 7 ปีครึ่ง ทางแพลตฟอร์มได้ประกาศว่า พวกเขากำลังเตรียมชำระคืนบิทคอยน์บางส่วนตามแผนฟื้นฟูที่ได้รับอนุมัติ
กระบวนการชำระคืน BTC บางส่วนแก่เจ้าหนี้มากกว่า 10,000 รายที่กำลังจะมาถึง ไม่ได้มีการเปิดเผยจำนวนเงินที่แน่นอน แต่หลายคนคาดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอิทธิพลต่อราคาบิทคอยน์อย่างแน่นอน
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
