วันนี้ (12 กันยายน) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ขณะนั้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ห้าม ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขึ้นภาพสไลด์ที่มีรูป ครม. เก่าและใหม่ ว่าจากการตรวจสอบเป็นภาพประกอบการอภิปรายในหน้าปกและหน้าสุดท้าย ซึ่งความจริงโดยธรรมเนียมการอภิปรายต่างๆ เนื้อหาหรือภาพที่ใช้หากไม่มีความเสียหายและเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอก็จะสามารถเผยแพร่ในห้องประชุมใหญ่ได้ แต่มองว่าที่พรเพชรไม่อนุญาตเพราะมองว่าภาพที่รัฐบาลนำขึ้นนั้นดูดี แต่ภาพที่ฝ่ายค้านเอาขึ้นนั้นดูไม่ดี
รวมถึงวันนี้ภาพที่ เซีย จำปาทอง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะนำขึ้นสไลด์ก็ไม่ได้รับอนุญาต 2 ภาพเช่นกัน ซึ่งเป็นภาพที่นายกรัฐมนตรีร่วมรับประทานอาหารกับนักธุรกิจที่ไปร่วมแสดงความยินดี ทั้งที่ยังไม่ทราบเนื้อหาการอภิปรายจะเป็นไปในทิศทางใด ทั้งนี้ตนมองว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งหากมีการกีดกันการอภิปรายของฝ่ายค้าน พร้อมขอเลขารองประธานในที่ประชุมทั้ง 2 คน ช่วยสนับสนุนการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านบ้าง ภาพต่างๆ นั้น การชี้แจงให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ต้องออกโรงปกป้องขนาดนี้
เมื่อถามว่า ประเมินการอภิปรายแถลงนโยบายวันแรกของรัฐบาลอย่างไร ณัฐชาระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้รัฐบาลได้อภิปรายถึงนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทที่จะช่วยผู้มีรายได้น้อย ซึ่งตนมองว่าอาจจะไม่ครอบคลุมผู้ใช้บริการอย่างถ้วนหน้าใช่หรือไม่ ซึ่งไม่เหมือนนโยบายที่หาเสียงไว้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังไม่ตอบให้ชัดเจน อาทิ เรื่องพลังงาน หาเสียงไว้บอกจะลดทันที แต่ในคำแถลงนโยบายบอกว่าจะลดอย่างเหมาะสม รวมถึงมีหลายคำถามที่พรรคฝ่ายค้านถามไปแต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า การทำงานของฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยเพื่อแบ่งประเด็นกันหรือไม่ เพราะมีฝ่ายค้านบางพรรคยกเรื่องเก่ามาพูด เช่น ประเด็นจำนำข้าว ณัฐชาระบุว่า การลงรายละเอียดอาจจะไม่มี เนื่องจากเราจัดสรรเวลากันออกไปว่าพรรคใดได้กี่นาที ส่วนเนื้อหารายละเอียดแต่ละพรรคก็จะบริหารจัดการกันเอง แต่ในส่วนพรรคก้าวไกลจะมุ่งเน้นเรื่องนโยบายหลัก โดยจะไม่พูดถึงประเด็นอื่นๆ ซึ่งในการอภิปรายวันสุดท้ายนี้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, รังสิมันต์ โรม และ พริษฐ์ วัชรสินธุ จะอภิปรายช่วงเย็นๆ ค่ำๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ขอวิงวอนทางสภา ยิ่งค่ำยิ่งมืดประเด็นยิ่งร้อนแรงขึ้น ฉะนั้นถ้ามีกระบวนการปิดกั้นเช่นนี้ ประชาชนอาจจะตั้งคำถามถึงความไม่สง่างามได้ตั้งแต่วันแรก