วันนี้ (11 กันยายน) ที่ประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี
สังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวอภิปรายใจความว่า ตนขอเสนอ 2 กลยุทธ์ในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ คือ การสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ เพื่อแก้จน และกลยุทธ์การลดคอร์รัปชันให้เห็นผลใน 6 เดือน โดยให้แต่ละกระทรวงเลือกหน่วยงานที่พรรคการเมืองนั้นดูแลมาปรับปรุงการทำงาน ให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากขึ้น รวมถึงเป็นการกระจายความรับผิดชอบของพรรคการเมืองทุกพรรคที่ร่วมเป็นรัฐบาล
รัฐบาลจำเป็นต้องมี 3 เงื่อนไขสนับสนุนจึงจะประสบความสำเร็จได้ เงื่อนไขแรกคือ ความกล้าหาญด้านจริยธรรมของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เงื่อนไขที่ 2 คือ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเงื่อนไขประการที่ 3 คือ ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
สังศิตกล่าวต่อว่า ท่านนายกฯ ต้องตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่มาจากหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคที่ร่วมเป็นรัฐบาล และทำหน้าที่ให้กำหนดทั้ง 3 วาระนี้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกกระทรวงมีเป้าหมายเดียวกัน และจะได้ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกันได้
สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ การทำงานที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมด คือรัฐบาลต้องมีเป้าหมายกลางในการทำงานร่วมกันของรัฐบาลทุกพรรค ไม่ได้มีแค่งานประจำรัฐบาล และต้องทำงานที่เป็นผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในเวลา 6 เดือน หรือไม่เกิน 1 ปี รัฐบาลต้องพลิกวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากปัญหาในประเทศและต่างประเทศ ปัญหาสงคราม และปัญหาความไม่แน่นอนของโลก ให้เป็นโอกาสของประเทศไทย
สังศิตกล่าวทิ้งท้ายว่า การรวมตัวของพรรคการเมือง 11 พรรคนับเป็นการรวมตัวครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่พยายามจะก้าวข้ามความแตกต่างของอุดมการณ์ทางการเมือง ที่สำคัญกว่านั้นคือ การรวมตัวกันในครั้งนี้เพื่อสร้างประโยชน์สุขให้ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง