วันนี้ (8 กันยายน) วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์เรื่องอาหารของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่ใช้งบประมาณจำนวนมากและมีอาหารเหลือจำนวนมาก ว่า ในเรื่องนี้ได้เชิญเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมาพูดคุยแล้ว ซึ่งหลังจากการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีจะเชิญผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาพูดคุย เนื่องจากมีข้อมูลหลายประการ คาดว่าไม่เกินกลางเดือนกันยายนนี้ทุกอย่างจะเรียบร้อย
วันมูหะมัดนอร์ระบุว่า นโยบายของตนคือต้องทั่วถึงและไม่เหลือ ต้องยึดให้เป็นนโยบายที่เหมาะสม ไม่ฟุ่มเฟือย ขณะเดียวกันต้องให้สมาชิกได้รับการบริการที่ดีด้วย ส่วนจะมีการปรับลดงบประมาณค่าอาหาร สส. ที่ใช้ปีละกว่า 100 ล้านบาทหรือไม่นั้น ขอดูตัวเลขอีกครั้ง ซึ่งต้องมีการปรับปรุง แต่จะปรับปรุงในช่วงไหนต้องดูอีกครั้ง โดยจะเชิญรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ท่าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ความคิดเห็นด้วย
ประธานสภาระบุด้วยว่า ไม่ทราบข้อมูลเรื่องอาหารเหลือ แต่ต้องเห็นใจผู้จัดด้วยเช่นกัน เนื่องจากบางครั้ง สส. มาประชุมกันมาก และบางครั้งก็กลับไปก่อน หากจัดไม่ครบก็มีปัญหา ถ้าเกินความพอดีก็เป็นเรื่องไม่ดี เรื่องนี้ต้องร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ท่าน มาพูดคุยเพื่อหาความสมดุลให้ได้ และต้องพูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์ในครั้งก่อนๆ
สำหรับกรณีที่อาหารเหลือ และ สส. ห่อกลับบ้านจนเกิดดราม่านั้น วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่ออาหารเหลือจะนำไปบริจาคในสถานที่การกุศล เช่น สถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือนำไปแจกจ่ายให้กับบุคคลไร้บ้าน ส่วนกรณีที่ สส. ห่ออาหารกลับบ้าน ไม่ได้กินอาหารที่สภา คงไม่ได้ตั้งใจเอาไปให้ใคร แต่เห็นว่าเหลือจึงนำกลับบ้าน ต้องพิจารณาให้เหมาะสม
วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การพิจารณางบประมาณปี 2567 ไม่ทันใช้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ จำเป็นต้องใช้งบประจำที่มีอยู่ไปก่อน โดยรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเร่งจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และกำหนดวันเพื่อพิจารณางบประมาณอย่างเร่งด่วน เพื่อนำงบประมาณไปสร้างผลงาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล เชื่อว่าในวันแถลงนโยบายรัฐมนตรีจะได้คุยกับนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการ ครม. ในเรื่องนี้
