วันนี้ (5 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ถ่ายภาพร่วมกันหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำ ครม. ร่วมแถลงข่าวระบุว่า วันนี้ตนได้นำครม.เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์และปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกท่านมาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน รัฐบาลนี้เรามีความตั้งใจเพราะปัญหามีมากมาย เราจะทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวัน ทุกนาที เราจะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันที่ 8 กันยายนนี้ ตนจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชน เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป และสัปดาห์หน้าในวันที่ 11 กันยายน จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
เศรษฐากล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้เราจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข โดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โปร่งใสภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต
ส่วนการประชุม ครม.นัดพิเศษ ในวันที่ 6 กันยายน เป็นเรื่องการเตรียมตัวแถลงนโยบายในวันที่ 11 กันยายน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ขอไปพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เพราะหลายคนอาจจะมีความคิดที่ดี และจะแจ้งให้ทราบ ส่วนจะมอบรองนายกรัฐมนตรีท่านใดดูงานด้านความมั่นคง ขอโอกาสพูดคุยกันก่อน ซึ่งหลายท่านอาจจะมีข้อคิดที่ดี จึงจะขอรับฟังก่อน ส่วนรองนายกฯ ที่ดูแลเรื่องกฎหมายมีการวางตัวไว้แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราจะไปตัดสินใจ ต้องถามความเห็นจากรัฐมนตรีทุกท่าน
เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงงบประมาณล่าช้าหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ตนและรัฐมนตรีทุกท่านที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้ทราบถึงปัญหานี้ และคิดว่าคงไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ในการบริหาร อะไรทำได้ก่อนเราจะทำทันที ส่วนการประเมินผลงานของรัฐมนตรีคงแล้วแต่เรื่อง ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีทุกคน ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกท่านได้ทำงาน
เมื่อถามอีกว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทจะอยู่ใน 100 วันแรกที่รัฐบาลจะทำได้ใช่หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ยังไม่เคยบอกว่า 100 วัน แต่จะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด คิดว่าไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า ยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องทำ เป็นการจ่ายรวดเดียวและงวดเดียว
เศรษฐากล่าวอีกว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านในที่นี้เข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยไม่มีการแบ่งก๊วน แบ่งพวกและแบ่งฝ่าย
ส่วนการเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา เศรษฐากล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกัน เรื่องที่จะไปเจอกับผู้นำในหลายประเทศ รวมถึงนักธุรกิจ ขอเตรียมงานก่อน สำหรับการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเรียนให้ทราบในการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 กันยายน
เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นผู้นำรัฐบาล เป็นความหวังของประชาชน ตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่าภายใน 1-2 ปีประชาชนจะมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น เศรษฐากล่าวว่า เป็นคำถามที่ประชาชนทุกคนอยากจะทราบ วันนี้เรื่องปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่ทุกวัน ตนมั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกท่านจะทำงานอย่างหนัก พยายามเข็นนโยบายออกมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้ประชาชนทุกคน ซึ่งบางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำทั้งหมด อะไรที่ทำได้เร็วเราจะรีบทำก่อน
เศรษฐายังปฏิเสธถึงกรณีที่ระบุว่างานไหนที่ทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนคนว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดก็ทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย ยืนยันว่าไม่มีระยะเวลาฮันนีมูนให้กับ ครม. ทำงานทันที เนื่องจากตั้งแต่เราเริ่มฟอร์มรัฐบาลชุดนี้มา เราก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชน เพียงแต่ว่ายังสั่งการบริหารจัดการแผ่นดินไม่ได้ ซึ่งในวันที่ 8-9 กันยายน จะลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและปัญหา
นายกฯ ย้ำว่า ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง และพวกเราตระหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ถ้าเรื่องนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไปในรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่ เศรษฐายืนยันว่า มั่นใจ มั่นใจ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ส่วนจะนอนในทำเนียบหรือไม่ เศรษฐาระบุว่า ขอดูก่อน
