เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 บมจ.แสนสิริ (SIRI) รายงานกำไรสุทธิ 2Q66 จำนวน 1.62 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 76.7%YoY และ 2.5%QoQ) โดยได้รับการสนับสนุนจากกำไรพิเศษ เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ รายได้อยู่ที่ 9.18 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 26.4%YoY และ 20.1%QoQ) แบ่งเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยว 38% คอนโด 31% โครงการเพื่อเช่าและการบริหารอสังหาริมทรัพย์ 13% ทาวน์เฮาส์ 9% และมิกซ์ 9%
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31.5% ลดลงทั้ง YoY และ QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 18.9% บริษัทรับรู้กำไรพิเศษจากการขายที่ดิน (รายได้อื่น) จำนวน 502 ล้านบาท จากการขายที่ดินให้กับ JV สำหรับโครงการนาราสิริ กำไรสุทธิ 1H66 อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 162%YoY) และกำไรปกติอยู่ที่ 2.58 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 111%YoY)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น SIRI ปรับเพิ่มขึ้น 3.85%WoW สู่ระดับ 1.89 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 1.04%WoW อยู่ที่ระดับ 1,519.12 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2566 Backlog อยู่ที่ 2.06 หมื่นล้านบาท โดย 79% เป็นของ SIRI เอง และ 21% เป็นของ JV บริษัทจะรับรู้ Backlog 52% เป็นรายได้ในปี 2H66 และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567-2569
ในปี 2566 ประมาณการรายได้ไว้ที่ 3.98 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.7%YoY) โดย Backlog รองรับรายได้ที่ได้คาดการณ์ไว้แล้ว 66% และคาดว่า SIRI จะรับรู้รายได้จาก Backlog โครงการแนวราบจำนวน 7.3 พันล้านบาทใน 2H66
ทั้งนี้เมื่อรวมกำไรพิเศษ 2 รายการใน 2H66 เข้ามา ประเมินกำไรสุทธิปี 2566 ได้ที่ 5.57 พันล้านบาท เติบโต 112% และคาดการณ์กำไรปกติที่ 4.95 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.1%) ยอดโอนกรรมสิทธิ์ใน 3Q66 จะเพิ่มขึ้น QoQ ในขณะที่กำไรปกติจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ
นอกจากนี้ SIRI ยังคงแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมดในปีนี้ไว้ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 46%YoY) แม้ว่าโครงการเปิดใหม่ใน 1H66 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 24% ของแผนดังกล่าว ใน 3Q66 SIRI จะเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งหมด 19 โครงการ (แนวราบ 11 โครงการ และคอนโด 8 โครงการ) มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท (33% ของแผนที่วางไว้ทั้งปี) จากนั้นใน 4Q66 จะเปิดตัวโครงการที่เหลืออีก 20 โครงการ (แนวราบ 12 โครงการ และคอนโด 8 โครงการ) มูลค่ารวม 3.17 หมื่นล้านบาท (42% ของแผนที่วางไว้ทั้งปี)
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า SIRI จะเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่บางส่วนออกไปเป็นปี 2567 ตามแผนบริหารจัดการอุปทานใหม่ ซึ่งไม่น่าจะสร้างแรงกดดันต่อเป้ายอดพรีเซลของบริษัทหากคอนโดใหม่ได้การตอบรับที่ดีด้วยอัตราการขายสูงกว่า 30% ปัจจุบัน SIRI มียอดพรีเซล (ณ วันที่ 6 สิงหาคม) 2.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 45% ของเป้าที่วางไว้ในปี 2566 ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22%YoY) สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Tactical Call สำหรับ SIRI ไว้ที่ Neutral ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE 7.2 เท่า (+0.25SD)
SIRI ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H66 ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 สิงหาคม 2566 คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.3%
ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นสู่ 2.04 เท่า ดังนั้นกระแสเงินสดและดอกเบี้ยจ่ายจึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา
- เนื่องจาก SIRI มี backlog โครงการแนวราบระดับลักชัวรีที่ส่วนใหญ่มีกำหนดโอนใน 2H66 ดังนั้นจะต้องจับตาดูยอดโอนและช่วงเวลาในการโอน
- การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลทำให้ต้นทุนขายโดยรวมเพิ่มขึ้นและกดดันให้ปรับราคาขายเพิ่มขึ้น