วันนี้ (15 สิงหาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีการปรับหลักเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุว่า เราต้องอยู่กับโลกความเป็นจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่ามีคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ซึ่งการปรับในครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้าตามที่นายกรัฐมนตรีเคยให้ไว้ ยกตัวอย่าง สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ เจ้าของห้างเซ็นทรัล อายุ 80 ปี ท่านควรได้รับเบี้ยผู้สูงอายุหรือไม่ ความเป็นธรรมจำเป็นต้องมีและมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง บิดเบือนให้พี่น้องประชาชนตกใจและไม่เข้าใจ ยืนยันว่าไม่มีรัฐบาลไหนทำให้ประชาชนเดือดร้อน วันนี้เป็นช่วงรัฐบาลรักษาการจะต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน
“บางทีอย่าเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ทำไมเราไม่นึกถึงหัวอกคนที่ลำบาก บางทีเขาอาจจะเจียดส่วนนี้ไปช่วยได้มากกว่าเดิมก็ได้” ธนกรกล่าว
เมื่อถามว่าแผนดังกล่าวจะเป็นการวางยารัฐบาลใหม่หรือไม่ ธนกรกล่าวว่า ไม่ใช่การวางยา แต่เป็นการพูดบิดเบือนและให้ร้ายรัฐบาลรักษาการมากกว่า แต่ตนเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะเป็นระเบียบที่วางไว้ และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะงบประมาณปีละ 8-9 หมื่นล้านเป็นงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งหากมองในโลกของความเป็นจริง พรรคก้าวไกลก็มีนโยบายผู้สูงอายุ 3,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลถือว่าเราได้ทำให้ท่านด้วยซ้ำไป และเป็นการประหยัดงบประมาณเพื่อไปช่วยผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ
ธนกรกล่าวต่อว่า ผู้สูงอายุ 11 ล้านคน ตนเชื่อว่ายังมีอีกเป็นล้านคนที่ไม่ต้องการเบี้ยช่วยเหลือ และอยากช่วยผู้ที่มีรายได้น้อย ฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลคิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว และเชื่อว่าจะเป็นการวางสิ่งดีๆ ให้รัฐบาลถัดไป ไม่ใช่อยู่ๆ มาถล่มรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหากไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน และระเบียบที่ออกมาจะทำให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทำงานได้ง่ายขึ้น
