×

ฉากสุดท้ายมหากาพย์ แฮร์รี เคน ถึงเวลาอำลาสเปอร์ส?

09.08.2023
  • LOADING...
แฮร์รี เคน

ความจริงแล้วหาก แฮร์รี เคน ใจเด็ดเดี่ยวมากพอสักนิด บางทีเขาอาจจะได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 2 สมัยกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว

 

และหากเขาเป็นคนไม่แคร์อะไรเหมือนสตาร์นักเตะรุ่นใหม่หลายคนที่ไม่ให้ค่าความรักและความผูกพันมากไปกว่าเงินตราและความสำเร็จ บางทีเขาน่าจะได้ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิก ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่แล้ว

           

แต่เพราะเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น กัปตันทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จึงต้องตกอยู่ท่ามกลางวังวนของคำถามและความรู้สึกแบบที่ไม่มีคำตอบมาโดยตลอด แม้กระทั่งในตอนนี้

           

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนสถานการณ์ในเวลานี้จะเดินทางมาถึงจุดที่อาจเป็นฉากสุดท้ายในมหากาพย์การย้ายออกจากลอนดอนเหนือของเคน ที่กินระยะเวลายาวนานมาหลายปี

 

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อาจยอมปล่อยตัว ‘ไอคอน’ ของสโมสรของพวกเขาออกไป หลังได้รับข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาเยิร์น มิวนิก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

 

 

ลำนำ แฮร์รี เคน

 

ข่าวการย้ายทีมของเคน ถือเป็นหนึ่งในมหากาพย์การย้ายทีมที่ยาวนานและไม่มีที่สิ้นสุดง่ายๆ

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการจะได้ตัวเคนมาร่วมทีม และเสนอเงินให้มากถึง 120 ล้านปอนด์ ซึ่งทุนจากอาบูดาบีเชื่อว่ามันมากพอที่จะทำให้ทีมจากลอนดอนเหนือยอมปล่อยตัวกองหน้ากัปตันทีมออกมา และทุกฝ่ายก็เชื่อว่าสเปอร์สน่าจะยอมเปิดทาง

 

เพราะเคนนั้นแสดงออกชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะไปแล้ว และได้มีการแจ้งต่อ แดเนียล เลวี ประธานสโมสร เอาไว้ล่วงหน้าเป็นเวลา 1 ปี

 

แต่ปรากฏว่า เลวีเมินเฉยต่อข้อตกลงสุภาพบุรุษระหว่างทั้งสอง โก่งราคาค่าตัวของเคนขึ้นไปอีก จนทำให้แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากการเจรจา เพราะมองว่าค่าตัวที่สเปอร์สต้องการนั้นเกินจากความเป็นจริงไปมาก

           

เรื่องวันนั้นทำให้เคนไม่สามารถไปไหนได้และตัดสินใจจะอยู่กับสเปอร์สต่อไปโดยไม่คิดที่จะงอแงหรือโวยวายใดๆ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษลูกหนังที่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

 

และจากเรื่องวันนั้น เคนจึงยังอยู่กับสเปอร์สมาตลอด โดยที่เหมือนจะมีช่วงเวลาที่ดีแล้วเมื่อทีมได้ อันโตนิโอ คอนเต มาคุมทัพแทนที่ของ นูโน เอสปิริโต ซานโต ในช่วงต้นฤดูกาล 2021/22 ซึ่งสเปอร์สมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

แต่สุดท้ายช่วงเวลาดีๆ ดังกล่าวก็จบลง เมื่อคอนเตไม่อดทนต่อปัญหาภายในสโมสรที่พยายามชี้ให้เห็นว่า ‘วัฒนธรรมองค์กร’ ของสเปอร์ส นั้นคือสาเหตุที่ทำให้ทีมไม่สามารถก้าวไปไหนได้ เมื่อเลวีให้ความสำคัญกับนักฟุตบอลในฐานะของ ‘สินทรัพย์’ (Assets) มากกว่าผู้จัดการทีมที่มองว่าเป็นคนที่มาแล้วก็ไป

 

การลาออกของคอนเตนำมาสู่หายนะของช่วงปลายฤดูกาล 2022/23 ของสเปอร์ส

 

ที่กำลังจะนำไปสู่การตัดสินใจอำลาทีมอีกครั้งของเคน

 

 

ราชาที่ไร้มงกุฎ

 

ตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลที่ผ่านมาของเคนนับจากการได้โอกาสแจ้งเกิดกับสโมสร เคนนับว่าเป็นนักเตะต้นแบบที่น่ายกย่องของสเปอร์ส

           

ในเรื่องของฝีเท้าการเล่นเคนจัดว่าเป็นกองหน้าคนเดียวของอังกฤษต่อจาก เวย์น รูนีย์ ที่เข้าขั้นระดับโลก ด้วยสไตล์ของศูนย์หน้าตัวเป้าที่มีความครบเครื่องต้มยำ ไม่ได้เก่งแค่การจบสกอร์ได้ทุกรูปแบบและทุกระยะเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการสร้างสรรค์เกม ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำ จนบางครั้งเปิดดีเสียยิ่งกว่าคนที่ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์ด้วยซ้ำไป

           

แต่ที่ดียิ่งกว่าคือ เรื่องของการเป็นผู้นำที่แม้จะไม่ได้เป็นพวกชอบกระตุ้นเพื่อน แต่การที่เขาได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ก็ถือเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว

           

ผลงานกับสเปอร์สเองก็ยอดเยี่ยม เคนเป็นนักเตะที่รักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงได้ดีสม่ำเสมอ ไม่ว่าสเปอร์สจะทำผลงานเป็นอย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้นๆ แต่จุดที่ถือเป็นสุดยอดความภูมิใจสำหรับเขากับสเปอร์สคือ การทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ จิมมี กรีฟส์ ตำนานศูนย์หน้าอมตะของสโมสร

           

กรีฟส์ผู้ยิ่งใหญ่ครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดของสเปอร์สมายาวนานด้วยผลงาน 266 ประตู จากการลงเล่น 379 นัด ที่คงไว้ตั้งแต่ฤดูกาล 1969/70 หรือกว่า 53 ปีมาแล้ว

           

แต่เคนสามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อยิงประตูในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ โดยเป็นประตูที่ 267 ของเขาในการลงเล่นนัดที่ 304 ให้กับสโมสร รวมถึงยังเป็นนักฟุตบอลคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่เข้า ‘200 Club’ หรือยิงได้เกิน 200 ประตู ต่อจาก อลัน เชียเรอร์ (260 ประตู 441 นัด) และ เวย์น รูนีย์ (208 ประตู 491 นัด)

           

เรื่องนี้เป็นความภูมิใจที่สุดสำหรับเขาอย่างแน่นอน

           

แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นคำถามสำหรับเคนด้วยว่า ยังเหลืออะไรให้เขาไขว่คว้าอีกหรือไม่กับสเปอร์ส?

 

 

แสงสว่างในวันที่มืดมน

 

คำถามดังกล่าววนเวียนในหัวเคนมาตลอด และดูเหมือนว่าคำตอบเองก็ยังคงเหมือนเดิมคือ สิ่งเดียวที่เขาขาดตอนนี้กับสเปอร์สคือความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างการชูถ้วยแชมป์

           

และเขาก็รู้ดีว่าโอกาสที่จะทำแบบนั้นได้กับสเปอร์สดูเหมือนจะลดน้อยลงไปอีก เมื่อมองดูทีมคู่แข่งรอบตัวที่ต่างเร่งฝีเท้าก้าวแซงไปข้างหน้ากันแบบไม่หยุดยั้ง ในขณะที่สเปอร์สเองยังก้าวเดินอย่างเชื่องช้าและดูขุมกำลังยังห่างจากคู่แข่ง

           

เพียงแต่ครั้นจะคิดถึงการย้ายไปทีมอื่นในอังกฤษ ด้วยวัย 30 ปีและค่าตัวที่ถูกปักป้ายเอาไว้ถึง 100 ล้านปอนด์ ก็ไม่มีทีมใดที่พร้อมจะดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วย ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าการได้นักเตะระดับนี้ไปจะช่วยยกระดับทีมได้มากขนาดไหนก็ตาม

           

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ที่ทั้งหนุ่มกว่าและอาจจะทรงประสิทธิภาพมากกว่าในการจบสกอร์

           

เชลซี พวกเขามีปัญหาทางการเงินมากเกินกว่าจะมาจัดงบ 100 ล้านประเคนให้

           

นิวคาสเซิลเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ทีมยังติดขัดในเรื่องของกฎการเงิน Financial Fair Play ทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายตามใจชอบได้ แม้จะมีทุนรอนมหาศาลไม่อั้น

           

อาร์เซนอล? โลกแตกก่อนค่อยคิด

           

ส่วนลิเวอร์พูลไม่มีเงิน

           

แต่แล้วจู่ๆ ก็มีข้อเสนอที่คาดไม่ถึงมาจากบาเยิร์น มิวนิก สโมสรอันดับหนึ่งของเยอรมนี ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำและต้องการนักเตะที่จะเป็น ‘พระเอก’ คนใหม่ของสโมสร หลังจากที่ไม่สามารถหาใครขึ้นมาทดแทน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่ย้ายไปบาร์เซโลนาเมื่อฤดูกาลที่แล้วได้

           

เคนเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์แทบทุกอย่าง แม้ว่าจะอายุค่อนข้างมากแล้วก็ตาม

           

ปัญหาคือบาเยิร์นจะยอมทุ่มเงินตามที่สเปอร์สต้องการหรือไม่?

 

 

ข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาวาเรีย

 

ข่าวคราวระหว่างบาเยิร์นกับเคนดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยที่มีผู้สื่อข่าวจาก Bild คอยรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเป็นระยะ โดยยืนยันว่า ความสนใจจากเยอรมนีเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และการไปเยอรมนีก็ถือเป็นทางออกที่ดี เพราะไม่ใช่คู่แข่งในพรีเมียร์ลีก

           

สำหรับเคนการไปบาเยิร์นแทบจะเป็นการการันตีแชมป์บุนเดสลีกาทุกฤดูกาลอยู่แล้ว และที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวเขาเองคือ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของการย้ายทีมที่มี ‘ความหมาย’ ในชีวิต

           

หลังจากมีกระแสข่าวสักพัก บาเยิร์น มิวนิก ก็ยื่นข้อเสนอมาจริงๆ! แต่ปัญหาคือข้อเสนอทุกครั้งถูกปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

           

ข้อแรกอยู่ที่ 73 ล้านปอนด์ ก่อนจะเพิ่มเป็น 86 ล้านปอนด์ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของเลวี

           

หรือให้พูดอีกทีคือ ประธานสโมสรสเปอร์สเองก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะยอมรับข้อเสนอที่อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่ทีมจะสามารถทำเงินได้จากเคนหรือไม่ เพราะสตาร์ของทีมเหลือสัญญากับสโมสรแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจะยอมต่อสัญญาฉบับใหม่อีกหรือไม่

           

หากเคนไม่ต่อ หมายถึงในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า เขาสามารถเจรจาย้ายทีมไปไหนก็ได้ตามกฎบอสแมน

           

ในทางตรงกันข้าม เคนที่รอดูท่าทีของทั้งบาเยิร์นและสเปอร์สก็อยู่ในช่วงของการตัดสินใจเช่นกัน เพียงแต่ความรู้สึกที่ต้องการจะย้ายออกจากสโมสรของเขาในเวลานี้ไม่ได้แรงกล้าเหมือนเดิมแล้ว

           

ความรู้สึกของเคนคือ หากสโมสรตกลงกันได้ เขาพร้อมจะไป

           

แต่หากตกลงกันไม่ได้ เส้นตายสำหรับเขาอยู่แค่วันศุกร์นี้ หลังจากนี้เคนจะโฟกัสในการเล่นให้กับสเปอร์สเหมือนเดิม เขาจะไม่ขอย้ายออกจากทีมหากฤดูกาลได้เริ่มต้นไปแล้ว เพราะไม่ต้องการทำให้แฟนๆ ผิดหวัง และสร้างผลกระทบรุนแรงต่อสโมสรอีก

           

เรื่องราวมหากาพย์นี้จึงอยู่ที่ข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาเยิร์น มิวนิก ที่เสนอให้เป็นเงิน 94.5 ล้านปอนด์ (110 ล้านยูโร) ซึ่ง The Times จากอังกฤษ เชื่อว่า เป็นข้อเสนอที่น่าจะดีพอที่เลวีจะยอมรับและเปิดทางให้เคนไปจากสโมสร เพราะถือว่าค่าตัวสมเกียรติ

           

สเปอร์สเองแม้จะขยับตัวช้า แต่ก็มีความเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะ โดยล่าสุดได้ มิกกี ฟาน เดอ เฟน กองหลังอนาคตไกลจากโวล์ฟสบวร์ก ในราคา 34 ล้านปอนด์ และมีข่าวว่าอยากได้ เพอร์ ชูร์ส กองหลังชาวดัตช์อีกคนจากโตริโน ที่ค่าตัว 28 ล้านปอนด์

           

ส่วนแดนหน้าพวกเขาอยากได้ กิฟต์ ออร์บาน กองหน้าวัย 21 ปีจากสโมสรเกงค์มาช่วย ริชาร์ลิสัน ที่หากเคนไม่อยู่ก็จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักแทน

           

โดยที่เงินที่ได้จากการขายเคนจะนำไปใช้สร้างทีมยุคใหม่ที่ไม่มีเขาอีกต่อไป

           

อย่างไรก็ดี อย่างที่บอกว่าเคนไม่มีวันที่จะบีบให้สโมสรต้องปล่อยตัวเขาออกจากทีม หากไม่สามารถย้ายทีมได้เขาก็พร้อมจะอยู่กับสโมสรต่อไป แม้จะยังไม่รู้ว่าหากเป็นแบบนั้นแล้วจะมีการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีกหรือไม่ก็ตาม

 

ให้เป็นเรื่องของโชคชะตา

 

ถ้าจะได้ไปคือได้ไป

 

ถ้าไม่ได้ไปก็ถือว่าเขาอาจต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X