วันนี้ (31 กรกฎาคม) บรรยากาศที่พรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ ซอยรามคำแหง 42 ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ยังมีแกนนำบางคนเข้ามาที่พรรค อย่าง พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้ามาทำงานที่พรรคโดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า วันนี้เข้าพรรคมาเพื่อเตรียมร่างกฎหมายที่ได้ยื่นสภาไปหลายร่างแล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายไปแล้ว 2 ชุด คือ การปฏิรูปกองทัพ ที่มีทั้งหมด 5 ร่าง หนึ่งในนั้นคือการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร และอีกชุดคือการแก้ไขปัญหาเรื่องทุนผูกขาด สุราก้าวหน้า และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า เพื่อผลักดันเข้าสภาต่อไป
ส่วนการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เพราะต้องใช้เสียง ส.ว. เห็นชอบด้วยถึง 1 ใน 3 พริษฐ์ระบุว่า ต้องดูว่าจะเข้าสู่รัฐสภาเมื่อไร พรรคก้าวไกลมีความคาดหวังว่าจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอจากรัฐสภา รู้ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทาย เพราะเคยมีการเสนอร่างไปแล้วใน 3-4 ครั้งที่ผ่านมา แต่เราเห็นว่ามี ส.ว. ที่เคยสนับสนุนเรื่องนี้มาแล้วถึง 63 คน เพราะฉะนั้นจะให้ถึงเป้าจะต้องมีเสียง ส.ว. โหวต 83 คน ก็จำเป็นต้องหาเสียง ส.ว. มาเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องมาตรา 272 พรรคก้าวไกลได้หารือกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมหรือไม่ พริษฐ์กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องมีการหารือกันอยู่แล้ว ถ้าเราดูจากจุดยืนของแต่ละพรรคที่ผ่านมาทั้งสองซีก ความจริงเรื่องมาตรา 272 ได้รับการสนับสนุนจากหลายพรรคการเมือง ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยเห็นชอบ
ส่วนประเด็นการจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้ยังมั่นใจว่าทั้ง 8 พรรคยังจับมือกันเหนียวแน่นใช่หรือไม่ พริษฐ์เปิดเผยว่า ยังมีความคาดหวังเช่นนั้น และคิดว่าเป็นความต้องการของประชาชนที่สะท้อนผ่านการเลือกตั้ง ส่วนความคืบหน้าขอให้คณะเจรจาเป็นผู้ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความรู้สึก หลังโลกออนไลน์โพสต์ถึงพริษฐ์ในการเป็นผู้นำพรรคในเจเนอเรชันที่ 3 พริษฐ์ย้ำว่า อย่าเพิ่งไปคิดถึงตรงนั้น เราโฟกัสที่ปัจจุบัน เพราะพรรคก้าวไกลทำงานเป็นทีมอยู่แล้ว และทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
