วันนี้ (21 กรกฎาคม) สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลว่า ยินดีกับการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการเดินตามครรลองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงขอเสนอผ่านไปยังพรรคเพื่อไทยแกนนำใหม่ ควรแถลงประเด็นของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจนอย่างน้อยดังนี้
- ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
- พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ต้องมีนโยบายร่วมสำคัญในการเดินหน้าประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีความสงบสันติสุข และไม่มีนโยบายใดๆ จากพรรคร่วมรัฐบาลหรือกลุ่มการเมืองกลุ่มอื่นๆ ที่พรรคการเมืองสนับสนุนในการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา 112 และมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
หรือดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กระทบต่อสถาบันหลักคือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งการกระทำโดยตรงของรัฐบาล รัฐมนตรี ส.ส. และเครือข่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะกระทำเองหรือการให้การสนับสนุนใดๆ อีกต่อไป
- ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริตและคดีมาตรา 112 หรือคดีอาชญากรรมร้ายแรง
- นโยบายด้านเศรษฐกิจนำพาสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม
- นโยบายด้านการต่างประเทศที่ไม่กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค
- นโยบายด้านการทหารและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในทุกมิติ
- นโยบายด้านปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาสังคมเพื่อเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยจากสังคมสื่อโซเชียลที่สร้างความเกลียดชังในปัจจุบัน
- นโยบายด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม
- นโยบายกระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครอบคลุมทุกมิติ
- นโยบายแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่สนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนใดๆ
สมชายระบุอีกว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังหาข้อสรุปร่วมให้ชัดเจนไม่ได้ ขอเสนอให้ทำเรื่องแจ้งต่อประธานรัฐสภาเพื่อเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เพื่อจะได้เกิดความรอบคอบรัดกุมให้ชัดเจนในการให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่วมกันทำหน้าที่โหวตให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เสียที
อ้างอิง: