วันนี้ (11 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า เรื่องแรกที่เข้าสู่การประชุมในการพิจารณาหารือคือการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 กรกฎาคม และประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13 กรกฎาคม
โดยการประชุมในวันที่ 12 กรกฎาคม เป็นการประชุมประเด็นที่มีในระเบียบวาระการประชุมสภา ทั้ง 8 พรรคร่วมเห็นว่าสมัยประชุมสมัยแรก ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดวันแรกคือพิธีเปิดสมัยประชุมเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม โดยมีระยะเวลา 120 วัน ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 30 ตุลาคม ส่วนสมัยที่ 2 น่าจะกำหนดเริ่มประมาณวันที่ 12 ธันวาคม อีกแนวคิดเสนอเป็นวันที่ 1 มกราคม แต่ทางวิปจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นก็ต้องไปพิจารณากัน
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเห็นว่าจะให้เพิ่มวันประชุม จากเดิมที่มีแค่ 2 วัน คือวันพุธและพฤหัสบดี โดยจะเพิ่มเป็นวันอังคาร เริ่มเวลา 13.30 น. เนื่องจากในช่วงเช้าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13 กรกฎาคมนั้น เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ทั้ง 8 พรรคร่วมยืนยันชัดเจนให้ความเห็นชอบพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ โดยที่ประชุมมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอชื่อ ดังนั้นตนจะเป็นคนเสนอชื่อพิธาต่อที่ประชุมเอง โดยที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะเปิดให้สมาชิกที่มีข้อซักถามสามารถซักถามคนที่มีชื่อเป็นนายกฯ ได้
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงวิธีการโหวตนายกฯ หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ยอมรับว่าในที่ประชุมมีการหารือกันถึงวิธีการโหวตนายกฯ โดยให้ ส.ส. 500 คนโหวตก่อน และให้ 250 ส.ว. โหวตต่อ แต่เห็นว่าหากเสนอเป็นญัตติให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเรื่องนี้ ที่ประชุมเห็นว่าอาจทำให้บรรยากาศของการประชุมในวันดังกล่าวติดขัด สร้างความระแวงสงสัย
จึงสรุปว่าอะไรที่จะทำให้บรรยากาศที่ประชุมไม่ดี เราจะหลีกเลี่ยง และยืนยันที่จะทำตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในการโหวต โดยให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเรียงตามตัวอักษร
เมื่อถามว่า ที่ประชุมมีการสอบถามเรื่องเสียง ส.ว. ที่จะสนับสนุนพิธาหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า มีการสอบถามกัน ซึ่งทางชัยธวัช ตุลาธน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบในมุมที่อยู่บนพื้นฐานความพยายามที่จะประสานและหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้ระบุว่ามีจำนวนเท่าใด
เมื่อถามต่อว่า หากฟังจากสิ่งที่ชัยธวัชชี้แจง แสดงว่ายังได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ไม่ครบเท่าจำนวนที่ต้องการใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ได้รับคำตอบจากชัยธวัช ซึ่งเราได้ถามในที่ประชุมไป ชัยธวัชก็บอกว่าพยายาม ส่วนจะครบหรือไม่ครบนั้นไม่ได้ยืนยันเป็นตัวเลข
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยถึงการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะมาติดตามสถานการณ์การโหวตนายกฯ หากวันที่ 13 กรกฎาคมไม่สามารถโหวตได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้ในที่ประชุมไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพียงแต่มีเรื่องแจ้งให้ทราบว่า ในวันดังกล่าวทางรัฐสภาจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเข้ามาร่วมฟังการประชุม โดยการจัดสถานที่ให้ ซึ่งจะใช้ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณีเป็นหลัก ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นอาจขออนุญาตปิดถนนทหาร ให้เป็นที่อยู่ของประชาชนโดยยึดตรงนั้นเป็นหลัก ไม่อยากให้เข้ามาบริเวณอาคารรัฐสภา เพราะมีหลายกลุ่ม
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่ายิ่งมีคนมาชุมนุมยิ่งเป็นการกดดัน ส.ว. หรือ ส.ส. ที่ยังไม่แสดงความเห็นด้วย ทางพรรคร่วมรัฐบาลได้คุยกับพรรคก้าวไกลเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ได้ยกขึ้นมาเป็นประเด็น เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายก็เป็นไปโดยสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าเขาจะมาเท่าไร เราก็จะอำนวยเรื่องสถานที่ ทั้งนี้ หากอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายตนคิดว่าสามารถทำได้ ไม่ถือว่าเป็นการกดดันใดๆ
เมื่อถามว่า หากโหวตครั้งแรกพิธาไม่ผ่าน จะมีการปรับแผนหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการหารือกัน เอาข้อเท็จจริงให้ปรากฏก่อน
ส่วนจะมีการคุยกันหรือไม่ว่าจะเสนอชื่อพิธากี่รอบ ถ้าไม่ได้แล้วจึงจะเปลี่ยนให้ทางพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้น เอาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคมเป็นตัวหลักก่อน
เมื่อถามว่า กังวลว่าเสียงจะปริ่มน้ำหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ได้คิด เราก็ตั้งใจให้ผ่าน เพราะมติของเราทั้ง 8 พรรคร่วม เว้นประธานรัฐสภา จะต้องลงคะแนนให้ทั้งหมด ทั้งนี้ ย้ำว่าเราตั้งใจจะให้ผ่านโดยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งก่อนและขณะลงมติ