วันนี้ (3 กรกฎาคม) ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการรายงานตัว ส.ส. ต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนลาออกเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการสละสิทธิ์เพื่อจะอยู่ช่วย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรอให้มีประธานสภาก่อนเพื่อที่จะเลื่อนตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับ 14 อนุชา บูรพชัยศรี ขึ้นมาแทน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรายงานตัว ส.ส. พีระพันธุ์กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้วไม่ได้มีข้อบังคับให้เข้ารายงานตัว เป็นเพียงขั้นตอนของสภา จะรายงานตัวเมื่อไรก็ได้ แต่ตนเองก็ไม่ได้รายงานตัวเพราะประสงค์จะทำหน้าที่เลขานายกรัฐมนตรีต่อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ลาออกจะส่งผลกระทบต่อการบริหารภายในพรรคหรือไม่ พีระพันธุ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มีปัญหา ก่อนหน้านี้ไม่มี ส.ส. ตนเองก็บริหารพรรคได้ ซึ่งโชคดีที่ในพรรคมี ส.ส. ที่มีประสบการณ์หลายคน จึงไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงในเรื่องงานในสภา และตนเองจะไปร่วมประชุม แต่จะขออยู่ด้านนอก และจะดูแลการผลักดันของ ส.ส. ในสภา
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม กรณีปรากฏชื่อของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นแคนดิเดตประธานสภา พีระพันธุ์กล่าวว่า ตนเองนั้นไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพราะไม่ได้ตกลงกัน ส่วนทิศทางของ ส.ส. ในพรรคยังไม่มีการคุยกัน ต้องรอให้ชัดเจนก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา พีระพันธุ์ขอไม่ออกความเห็น ขอให้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อตนเองชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พีระพันธุ์กล่าวปฏิเสธพร้อมระบุว่า คิดมากเกินไปเอง และยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ ส่วนแนวทางในการโหวตนายกรัฐมนตรี ก็ตามนโยบายและกำหนดการของพรรค ซึ่งพรรคมีแนวทางการทำงานที่เป็นของพรรคอยู่แล้ว ที่ยึดมั่นศาสน์ กษัตริย์ และนโยบายของพรรคก็ต้องตามอุดมการณ์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า วันนี้จะได้มติของพรรคเกี่ยวกับเรื่องการโหวตประธานสภาใช่หรือไม่ พีระพันธุ์กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ต้องมีมติก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร ส่วนการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนเองไม่ทราบ เพราะพรรคไม่มีนโยบายจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย