วันนี้ (28 มิถุนายน) สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่มติพรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อรองขอตำแหน่งเก้าอี้ประธานสภาจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตามกำหนดแล้วจะมีการประชุมในวันนี้ แต่พรรคก้าวไกลขอเลื่อนการประชุมออกไปไม่มีกำหนด จะเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่
สันธนะระบุในนามสมาชิกพรรคก้าวไกลว่าวันนี้ทั้ง 2 พรรคก็แตกแล้ว โดยสิ่งที่จะเห็นในวันโหวตประธานสภาในทางลับนั่นคือคำตอบ ซึ่งมาจากวันนี้ที่เกิดจากรอยร้าวแล้ว ส่วนตัวมองว่าเขา (พรรคเพื่อไทย) ก็มีวุฒิภาวะมากกว่า
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลที่ประกาศตัวออกมา พร้อมเสนอชื่อ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เป็นประธานสภานั้น สันธนะระบุว่ามองว่าไม่ใช่ตั้งแต่แรก เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญทั้งในรัฐสภาและระดับประเทศ จึงเกิดคำถามตามมาว่าพรรคก้าวไกลเล่นอะไรกับประเทศชาติ จะเล่นอะไรก็เล่นไป แต่เป็นการเล่นที่เกินไป ส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับปดิพัทธ์ที่ถูกเสนอชื่อ แต่ได้ดูโปรไฟล์แล้วก็ต้องขอพูดตรงๆ ว่า ‘มืด’
สันธนะกล่าวว่า เพราะคนจะมาอยู่ในตำแหน่งประธานสภา หากนำเสนอใครหรือเอ่ยชื่อมาจะต้องไม่มีข้อครหาและต้องมีวุฒิภาวะ ไม่ว่าจะถูกนำเสนอมาจากพรรคไหนก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้ดูถูกเขา แต่มองว่าปดิพัทธ์ยังไม่เหมาะสมนั่งบัลลังก์ประธานสภา เหมาะสมเพียงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาเท่านั้น จึงอยากให้กลับไปทบทวนใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้สันธนะยังย้ำด้วยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน